พฤติกรรมดูแลผิวแบบผิดๆ ถ้าทำบ่อยอาจส่งผลเสียให้ผิวไม่สวย เบาได้เบา !
แน่นอนว่าการดูแลผิวเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ แต่หากดูแลมากเกินไปหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกินความจำเป็น จากผลดีก็อาจจะกลายเป็นผลเสียทำให้ผิวของเรานั้นออร่าดรอปได้เลยทันที วันนี้เราเลยมี พฤติกรรมดูแลผิวแบบผิดๆ มาบอกต่อ
เผยแพร่: 4 ม.ค. 2567 12:00 น.
Views: 2,269
รหัสบทความ: 97325
‘ผิวสวยใส ออร่าจับ’ใครๆ ก็อยากจะได้ผิวแบบนี้กันสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเฉดสีผิวแบบไหนแค่เพียงมองแล้วผิวดูมีความชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน ทั้งยังดูสุขภาพดีเหมือนนอนพักผ่อนและดื่มน้ำเพียงพอใครล่ะจะไม่อยากได้ แต่การที่จะได้ผิวแบบนี้นั้นก็ต้องผ่านการดูแลและขยันหมั่นเพียรเป็นประจำเพื่อการบำรุงผิวหน้าให้ดูอิ่มฟูอยู่เสมอนอกจากการหาสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของเราแล้วก็อาจจะพึ่งสิ่งต่างๆ เข้ามาเพื่อเสริมให้ผิวนั้นดูเปล่งปลั่งไม่หมองคล้ำนั่นเองซึ่งพฤติกรรมที่อาจจะส่งผลทำให้การดูแลผิวของเรานั้นกลายเป็นเรื่องผิดพลาดจนทำให้ผิวจากดีกลายเป็นย่ำแย่ลงมากยิ่งขึ้น คือพฤติกรรมดูแลผิวแบบผิดๆที่เราคิดว่ายิ่งบำรุงมากผิวก็จะยิ่งสวยหรือการทำพฤติกรรมนั้นซ้ำๆ จนส่งผลเสียให้กับผิวหน้าโดยไม่รู้ตัว เพื่อไม่ให้ผิวหน้าของเราแย่ลงและเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ เราควรรู้ถึงพฤติกรรม‘การดูแลผิวแบบผิดๆ ที่ถ้าหากทำบ่อยจะทำให้ผิวไม่สวย’กันเลย
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
7 พฤติกรรมดูแลผิวแบบผิดๆ หากทำบ่อยส่งผลเสียให้ผิวไม่สวย
พฤติกรรมดูแลผิวแบบผิดๆ ที่ 1 การสครับผิวหน้าที่บ่อยเกินไป
อย่างที่ทุกคนรู้ว่าการสครับหน้าคือการผลัดเซลล์ผิวจากเซลล์เก่าออกไปให้เซลล์ใหม่ทดแทน เพื่อเป็นการทำให้การลงสกินแคร์นั้นซึมลงเข้าผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่การเลือกสครับหน้าบ่อยๆ แทนที่จะส่งผลที่ดีแต่กลายเป็นการรบกวนผิวหน้าจนอาจเกิดการระคายเคืองต่อผิว ทำให้ผิวแห้งตึงทั้งยังอาจจะเกิดผื่นและรอยแดงขึ้นได้ ยิ่งหากใครที่มีผิวหน้าที่บางหรือค่อนข้างไปทางผิวแพ้ง่าย นอกจากนั้นแล้วยังทำให้ผิวหน้านั้นมีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิมเพื่อเป็นการชดเชยกับความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป และน้ำมันที่มากเกินไปก็อาจทำให้รูขุมขนนั้นเกิดการอุดตันและยังกลายมาเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ด้วยซึ่งการสครับหน้าที่เหมาะสมนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงผลิตภัณฑ์การสครับที่เรานำมาใช้ด้วย ซึ่งอยากมากเดือนละครั้งก็เพียงพอต่อการผลัดเซลล์ผิวแล้ว
พฤติกรรมทำบ่อยผิวเสีย ที่ 2 การบีบสิว
เห็นเม็ดขาวๆ ตึงๆ บนใบหน้าใครล่ะจะอดใจไหวไม่ให้บีบมันออกกัน ซึ่งพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นกับแทบทุกคนจนอยากจะเอาหน้าไปเข้าใกล้ๆ กับกระจกและรีบบีบสิวตัวร้ายออกจากผิวหน้าให้หมดเลยทันที แต่อยากบอกเลยว่านั้ให้รีบหยุดพฤติกรรมนี้โดยด่วน! เพราะการบีบสิวจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่กว่าจะจางนั้นนานมาก ทั้งอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อจากความสกปรกของมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาดหรือมีการสะสมของเชื้อโรคอยู่ จนทำให้แผลบีบสิวกลายเป็นอักเสบรักษานานจนบางรายนั้นถึงขั้นต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษารอยแผลจากการบีบสิวเองดังนั้นแล้วเมื่อเห็นสิวเกิดขึ้นบนใบหน้าต้องพยายามไม่ยุ่งหรือไปแตะ ไปสัมผัสบ่อยๆ เพราะสิวนั้นจะค่อยๆ ยุบลงไปเอง แต่ถ้าใครรีบร้อนก็ควรหาอุปกรณ์สำหรับบีบสิวที่มีประสิทธิภาพและใส่ใจเรื่องความสะอาดด้วย
การใช้สกินแคร์แบบผิดวิธี ที่ 3 เลือกใช้สกินแคร์หลายชนิดมากเกินไป
สกินแคร์มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละตัวนั้นก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เมื่อนำมาดูแลผิวบนใบหน้าก็จะทำให้รู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้นและดูสวยขึ้น แต่อะไรที่มากเกินไปหรือเกินความพอดีก็อาจเป็นอันตรายต่อผิวหน้าได้ด้วยเช่นกัน การลงสกินแคร์หลายขั้นตอนนั้นอาจทำให้เกิดการแพ้หรือเกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ หากเมื่อเกิดเช่นนั้นแล้วก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการผิดปกตินั้นเกิดจากตัวสกินแคร์ตัวไหนด้วยนั่นเอง อีกทั้งสกินแคร์บางประเภทนั้นไม่เหมาะสำหรับการใช้เป็นประจำทุกวัน ฉะนั้นต้องอ่านรายละเอียดการใช้ของสกินแคร์ให้ดีและเลือกสกินแคร์ที่ใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวในตอนนั้นๆ ด้วย เพื่อลดขั้นตอนลงทั้งยังปลอบประโลมผิวได้ดีกว่าการลงเยอะเกินไป
การดูแลผิวแบบผิดวิธี ที่ 4 ไม่ทาครีมกันแดด
การทาครีมกันแดดนั้นเพื่อเป็นการป้องกันผิวจากการโดนแสงแดดทำร้าย เพราะรังสี UV สามารถทำลายผิวของเราด้วยการรบกวนกระบวนการสร้างคอลลาเจนของผิว ซึ่งจะทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ทั้งยังเกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวที่มาในรูปแบบของฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวแห้งก้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัย และอาจร้ายแรงไปจนถึงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าอาจจะมีความเชื่อว่าไม่ออกแดดหรืออยู่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด แต่จริงๆ แล้วผิวของเราสามารถได้รับแสง UV แม้จะอยู่ในบ้านก็ตาม ฉะนั้นควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ และเลือกใช้ค่า SPF ที่สูงๆ ด้วย
พฤติกรรมดูแลผิวผิดวิธี ที่ 5 ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดก่อนเข้านอน
แม้จะเหนื่อยหรือจะหมดแรงจากการใช้ชีวิตมาทั้งวันแค่ไหน สิ่งที่ควรทำนั้นคือไม่ควรนอนหลับไปทั้งที่ยังไม่ทำความสะอาดผิวหน้าให้ปราศจากจากเครื่องสำอางที่เราลงไปก่อนจะเข้านอน เพราะการปล่อยคราบของเครื่องสำอางนั้นจะสามารถส่งผลเสียต่อผิวหน้าของเราได้มากสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขนที่กว้างหรือเกิดสิวอุดตันที่ตามมา ยิ่งใครที่ใช้ชีวิตผ่านมลภาวะต่างๆ หรือจากอากาศที่ร้อนจนทำให้มีเหงื่อ การไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอนสามารถส่งผลกระทบทำให้เยื่อผิวเกิดการอักเสบได้ อีกทั้งใครสายเน้นงานตาปังๆ หากล้างไม่สะอาดหลงเหลือคราบอายไลเนอร์หรือกลิตเตอร์ก็สามารถทำให้เยื่อบุตาอักเสบเลยทีเดียว แต่ใครไม่ใช้สายแต่งหน้าก็จำเป็นต้องคลีนหน้าด้วยน้า เพราะเราลงครีมกันแดดทุกวันฉะนั้นต้องคลีนออกไป
พฤติกรรมทำร้ายผิวสวย ที่ 6 จับหน้าบ่อยๆ
พฤติกรรมการสัมผัสใบหน้าหรือการจับหน้าบ่อยๆ นั้นเกิดจากความเคยชินหรือทำไปแบบไม่รู้ตัว แต่พฤติกรรมนี้จะทำให้เป็นการเร่งการเกิดสิวอักเสบหรือการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย เพราะผิวหน้าของเรานั้นมีความบอบบาง โดยเฉพาะมือที่เป็นอวัยวะสำคัญและใช้ในการหยิบจับนู้นนี่ตลอดเวลาจนทำให้มือไม่สะอาดกลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ที่ติดมากับมือ ยังรวมไปถึงการใช้แฮนด์ครีมหรือแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือก็สามารถส่งผลให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าได้ ซึ่งเราควรเลี่ยงการจับหน้าบ่อยๆ จะดีที่สุด
พฤติกรรมควรเลี่ยง ถ้าไม่อยากผิวเสียที่ 7 พักผ่อนไม่เพียงพอและดื่มน้ำน้อย
การนอนน้อยทำให้ค่า pH balance ของผิวต่ำลง จนส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการหมองคล้ำไม่สดใส เพราะกลไกของร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอระหว่างที่เรากำลังนอนหลับ รวมไปถึงสกินเซลล์ด้วย ฉะนั้นควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7- 8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวหน้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่การดื่มน้ำควรดื่มได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันหรือมากกว่านั้นนิดหน่อย เพราะโดยทั่วไปน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 2 ใน 3 ส่วนไม่เว้นแม้แต่ผิวหน้าที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบราว 35% ซึ่งน้ำที่เราดื่มจะส่งผลโดยตรงกับความชุ่มชื้นของผิวและเซลล์ผิว เมื่อเราดื่มน้ำไม่เพียงพอผิวของเราก็จะเกิดการขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูมีความแห้งกร้าน ผิวดูไม่อิ่มน้ำและยังทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เร็วมากขึ้น
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
จะเห็นได้เลยทั้ง 7พฤติกรรมดูแลผิวแบบผิดๆที่ เป็นพฤติกรรมที่เราทำไปทั้งแบบตั้งใจและบางสิ่งไม่ได้ตั้งใจโดยบางสิ่งบางอย่างนั้นอาจจะเกิดจากความเคยชินและได้รับความรู้ความเชื่อมาแบบผิดๆจนทำให้เราดูแลผิวไปแบบผิดๆ ด้วยเช่นกันซึ่งหากใครที่อ่านมาครบทั้ง 7 ข้อแล้วนั้นมีพฤติกรรมไหนบ้าง? เสี่ยงต่อการทำร้ายผิวที่เรายังทำอยู่เป็นประจำ เมื่อรู้แล้วต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไม่ให้ผิวหน้าของเรานั้นกลายเป็นสภาพที่ย่ำแย่ลงไป และเพื่อเป็นการรู้ถึงปัญหาตั้งแต่ต้นๆ เพื่อให้การบำรุงผิวหน้าของเรานั้นไม่เสียผลลัพท์และยังปรับเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวหน้าได้
