เมื่อคิดจะลดความอ้วน สาวๆ ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า " ระบบเผาผลาญ " หรือ " เมตาบอลิซึ่ม " กันทุกคน!
หลายคนเชื่อว่ายิ่งเรามีระบบเผาผลาญดี ร่างกายก็จะเผาผลาญแคลอรี่เยอะตามไปด้วย
แต่รู้ไหมว่า
จำนวนแคลอรี่ขั้นต่ำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ( BMR ) สามารถเพิ่มขึ้นได้ตามจำนวนกล้ามเนื้อในร่างกายของเรา
ระบบเมตาบอลิซึ่ม หมายถึงกระบวนการที่เซลล์ทำให้สารอาหาร > พลังงาน ทำให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ
ไ
ม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ ระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ ระบบหมุนเวียนเลือดและอีกมากมาย
วันนี้เรามีข้อมูล 10 ข้อเกี่ยวกับ
" ระบบเมตาบอลิซึ่ม "
มาฝากสาวๆ เพื่อจะได้มีความรู้เกี่ยวกับการเผาผลาญในร่างกายมากขึ้น และ
ทำให้ลดน้ำหนักสำเร็จ!
พร้อมแล้วตามมาเลย
1. ระบบเมตาบอลิซึ่ม " ถูกควบคุมโดยต่อมไทรอยด์ "
![รูปภาพ:http://www.activebeat.com/wp-content/uploads/2013/11/350x400xshutterstock_110058437-400x466.jpg.pagespeed.ic.o7L_J2Kcm2.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F9ce8249a-ddbe-405b-aec2-a805963d0173.jpeg%3Fv%3D20240306131343%26ratio%3D1.143&w=1200&q=75)
ระบบเมตาบอลิซึ่ม หรืออัตราการเผาผลาญจากอาหารเป็นพลังงานในร่างกาย ถูกควบคุมโดยต่อมเล็กๆ รูปร่างคล้ายผีเสื้อชื่อว่า " ต่อมไทรอยด์ "
ซึ่งเจ้าต่อมนี้อยู่ด้านหน้าลำคอของสาวๆ ทุกคน ( ใกล้ลูกกระเดือกสำหรับผู้ชาย )
สมองส่งสัญญาณไปที่ต่อมไทรอยด์ เมื่อมันต้องการพลังงาน
ต้องการผลิตโปรตีน ควบคุมฮอร์โมนและกระบวนการต่างๆ อีกมากมาย เช่น ระบบย่อยอาหารค่ะ
2. ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ทำให้อ้วนขึ้น และมีโรคอื่นๆ ตามมา
![รูปภาพ:http://m.f13.img.vnecdn.net/2014/03/01/Woman-tired-at-desk-8291-1393637679.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F530ec31d-3d8b-41c2-8731-c275c12b03d7.jpeg%3Fv%3D20240306131343%26ratio%3D0.668&w=1200&q=75)
สาวๆ หลายคนโอดครวญว่า " ที่ฉันไม่ผอมสักที เพราะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติย่ะ! "
ซึ่งบางรายก็พูดความจริง คือ
มีภาวะการเผาผลาญต่ำกว่าปกติ ( Slow BMR )
แต่ถ้าเธอมีภาวะนี้ ผลเสียไม่ได้มีแค่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีสัญญาณร้ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
ผลเสียที่มีตามมา เช่น โรคซึมเศร้า เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ผมร่วง ผิวแห้ง
ซึ่งต้องพบแพทย์เพื่อให้ยารักษาต่อมไทรอยด์เท่านั้น!
ใครที่กินน้อยแต่อ้วนง่ายจนผิดสังเกต ไปตรวจโรคก่อนจะสายเกินไปนะคะ!
3. ขนาดรูปร่างของเธอ กำหนดอัตราเผาผลาญในร่างกาย
![รูปภาพ:http://www.baliwellnessretreat.com/images/Weight-Loss-Plateau.jpg.pagespeed.ce.aZqBG3lAqW.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F4e5a5b3e-f28e-4356-87bb-f774e29d0ab8.jpeg%3Fv%3D20240306131343%26ratio%3D1.000&w=1200&q=75)
สาวซิสต้าบางคนคิดว่า ยิ่งตัวผอม ตัวเล็ก อัตราเผาผลาญในร่างกายก็ยิ่งหดตัวตามรูปร่างใช่ไหม ผิดถนัด!
ความจริงคือ ขนาดร่างกายและองค์ประกอบในร่างกาย ( เช่น ไขมันและกล้ามเนื้อ ) เป็นตัวบอกว่าร่างกายของเธอควรมี " พลังงาน " เข้าไปมากเท่าไหร่
ดังนั้น ยิ่งเธอตัวใหญ่ ( หรืออ้วน ) มากแค่ไหน เธอก็ยิ่งต้องการอาหารมากขึ้นเท่านั้น เพื่อให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ
สมองปลอดโปร่งแจ่มใส สรุปง่ายๆ ว่า
" เรามีค่า BMR สูงขึ้นตามน้ำหนักตัว "
นั่นเองค่ะ
4. การออกกำลังกายเป็นปกติและสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญได้
![รูปภาพ:http://fashin365.com/wp-content/uploads/2015/03/gym-exercise-720.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F749032d1-c69b-4e78-9b3b-d54c8518873c.jpeg%3Fv%3D20240306131343%26ratio%3D0.667&w=1200&q=75)
เชื่อไหมว่า แค่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ต้องโหมเหมือนนักกีฬาทีมชาติ เธอก็มีค่า BMR ที่สูงขึ้นได้!
วิธีการก็ง่ายๆ แค่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ( เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิก ) หรือยกเวทเพิ่มกล้ามเนื้อ ออกให้หนักพอที่จะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจจนถึงจุดที่ " เบิร์นไขมัน " ทำแบบนี้เป็นประจำก็ผอมได้ไม่ยาก
สาวๆ บางคนกลัวการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพราะติดภาพลักษณ์ว่าเป็นการออกกำลังของ " นักกล้าม " กลัวล่ำ ไม่ทำหรอก!
แต่ที่จริงการยกเวทนี่แหละ เป็นวิธีเผาผลาญพลังงานชั้นเยี่ยมเลยล่ะค่ะ ยิ่งเธอมีกล้ามเนื้อในร่างกายมากเท่าไหร่ ร่างกายของเธอจะเผาผลาญพลังงานเร็วขึ้นเท่านั้น
ผู้หญิงกล้ามขึ้นยากมาก ถ้าเธอกินโปรตีนและยกเวทไม่หนักพอ ยังไงก็ไม่ล่ำค่ะ!
5. ผู้ชายมีอัตราเผาผลาญ "สูงกว่า" ผู้หญิง
![รูปภาพ:http://i.livescience.com/images/i/000/024/995/i02/couple-sharing-food-120302.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F31d48be3-6da4-4718-93c1-6363cca0c5c8.jpeg%3Fv%3D20240306131344%26ratio%3D0.668&w=1200&q=75)
เป็นสัจธรรมของโลกที่สาวๆ ต้องทำใจ ธรรมชาติสร้างให้ผู้ชายมีร่างกายแข็งแกร่งกว่าผู้หญิง รวมถึงอัตราเผาผลาญในร่างกายด้วยเช่นกัน!
หนุ่มๆ จะมีจำนวนกล้ามเนื้อเยอะกว่าเพศตรงข้ามตั้งแต่เกิดแล้ว หากเล่นเวทกล้ามจะขึ้นง่ายกว่า หรือสรุปง่ายๆ ว่าพวกเขาอ้วนยากกว่าเรานั่นเอง
ลองสังเกตวัยรุ่นทั้งหญิงชาย เรามักเห็นเด็กวัยรุ่นเพศชายผอมสูงชะลูด ทั้งที่กินเยอะยิ่งกว่าเครื่องสูบ ในขณะที่เราเห็นวัยรุ่นสาวๆ อวบจนถึงอ้วนได้เยอะกว่า เพราะ
เพศหญิงมีแนวโน้มจะเก็บไขมันในร่างกายได้มากกว่า
นั่นเองค่ะ
6. ยิ่งอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญก็ยิ่งต่ำลงเรื่อยๆ
![รูปภาพ:http://silvercare.me/wp-content/uploads/2014/03/1274195347old_couple_walking_000003223740small.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F4debbd2c-8147-4f88-bce7-4584f2a96932.jpeg%3Fv%3D20240306131344%26ratio%3D0.666&w=1200&q=75)
ร้องไห้หนักมาก ยิ่งอายุมากขึ้น ( พยายามเลี่ยงไม่ใช้คำว่าแก่ ) อัตราเผาผลาญในร่างกายก็จะต่ำลงเรื่อยๆ ประมาณ 2% ทุกสิบปีเริ่มจากตอนที่สาวๆ อายุ 25 ปีเป็นต้นไป*ซับน้ำตา*
เหตุผลหลักๆ มีสองประการ คือ ยิ่งอายุเยอะ กล้ามเนื้อก็ยิ่งน้อยลง และเคลื่อนไหวช้า ทำให้ตารางชีวิตเปลี่ยนไป ออกกำลังกายน้อยลงถ้าเธอเป็นทั้งสองอย่างนี้ก็เตรียมอ้วนขึ้นได้เลย!
7. กรรมพันธุ์ส่งผลต่อระบบเผาผลาญด้วยเช่นกัน
![รูปภาพ:http://www.femalefirst.co.uk/image-library/land/500/s/stock-family-parenting-kids-health-fitness-bike_03,11.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F2e6026c8-9135-4e05-919f-ba100c0cb609.jpeg%3Fv%3D20240306131344%26ratio%3D0.666&w=1200&q=75)
" พันธุกรรม " มีผลอย่างมากกับอัตราเผาผลาญในร่างกายมนุษย์ เธอเคยเจอเพื่อนในห้องที่กินเป็นพายุแต่ผอมบางเหมือนไม้ขีดไหม
ถ้าเขาไม่เป็นโรคร้าย แปลว่าเขามีพันธุกรรม ( ยีน ) ผอมโดยกำเนิด ไม่เกี่ยวกับพยาธิ อัตราเผาผลาญสูงเองโดยธรรมชาติ โอ๊ย น่าอิจฉารัวๆ!
ถ้าเธอเกิดในครอบครัวที่ทุกคนในบ้านผอมสูง เธอก็มีแนวโน้มจะผอมสูงตามพ่อแม่ ในทางกลับกัน ถ้าบรรพบุรุษของเธอรูปร่างท้วมและเตี้ย ก็คงยากที่เธอจะมีหุ่นเหมือนนางแบบ TwT
แต่ถ้าเธออยู่ในครอบครัวคนอวบเพราะพฤติกรรมการกิน ไม่ใช่กรรมพันธุ์ ถ้าดูแลสุขภาพ คุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เธอก็หุ่นดีได้ค่ะ!
8. วิธีไดเอทผิดๆ ตามกระแส ทำให้น้ำหนักไม่ลด
![รูปภาพ:http://obesity.procon.org/files/1-obesity-images/diet-pills-apple-and-measuring-tape.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F2d51688b-743a-4eb4-916e-17296e69825a.jpeg%3Fv%3D20240306131344%26ratio%3D0.686&w=1200&q=75)
เธอเคยได้ยินข่าว หรือกระแสเกี่ยวกับเซเลบคนดังที่มีสูตรลดน้ำหนักแบบ " พิสดารเกินมนุษย์ " บ้างไหม ( เชื่อว่าต้องเคย )
เริ่มจากคำโปรยสวยๆ เช่น " ลด 10 กิโลใน 1 เดือน เพื่อฟิตหุ่นให้ทันรับเล่นภาพยนตร์เรื่องใหม่ " รูปร่างที่เห็นก็ผอมลงไปจริงๆ จนน่าตกใจ
บางทีก็แอบเคลิ้มอยากลองทำตามบ้างเหมือนกันนะเนี่ย!
อย่าไปหลงเชื่อ ทำตามเป็นอันขาด! การไดเอทแบบผิดธรรมชาติ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น
ระยะสั้นอาจลดไปบ้างไม่กี่กิโลกรัม แต่ในที่สุดน้ำหนักจะหยุดนิ่ง ไม่ลดอีกเลย กลับไปลดแบบธรรมชาติก็ไม่ทันแล้ว!
สูตรที่น่ากลัวที่สุดคือ กินอาหารที่มีจำนวนพลังงานต่ำกว่า 1200 แคลอรี่/วัน เพราะต่ำกว่าจำนวนพลังงานที่จำเป็นในชีวิต ( BMR )อีก
ยิ่งทำต่อเนื่องก็ยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญแย่ลงเรื่อยๆ ร่างกายจะคิดว่า
" ต้องกักตุนไขมันเยอะๆ เรากำลังจะตาย "
ในที่สุดก็จะกินแหลกจนอ้วนกว่าเดิม!
9. การกินทุกๆ 2-3 ชั่วโมงช่วยลดน้ำหนักได้
![รูปภาพ:http://fifediet.co.uk/wp-content/uploads/2014/11/mo11_6.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2F46b918d8-acb4-4430-ab07-62a403af038c.jpeg%3Fv%3D20240306131344%26ratio%3D0.750&w=1200&q=75)
ฮือ ทำไงดี เผลอทำสูตรกินน้อยไปแล้ว จะโยโย่ไหมเนี่ย!
ถ้าอยากกระตุ้นอัตราเผาผลาญในร่างกายให้พ้นจาก " จุดอดตาย " ก็ยังมีทางออกอยู่ นั่นคือกินอาหารที่มีประโยชน์และกินน้อยๆ แต่บ่อยๆ ( ทุก 2-3 ชั่วโมง )
จำนวนที่แนะนำคือ กินอาหารปกติ 3 มื้ออย่างเหมาะสม และมื้อกินเล่นอีก 2 มื้อระหว่างวัน
อาจเป็นของง่ายๆ อย่างถั่วหรือผลไม้สด เท่านี้ระบบเผาผลาญของเธอก็ทำงานได้แล่นฉิวๆ แล้วค่ะ
10. กระตุ้นระบบเผาผลาญด้วยอาหารบางชนิด เช่น พริกและกาแฟ
![รูปภาพ:http://images.medicaldaily.com/sites/medicaldaily.com/files/styles/headline/public/2014/05/01/womn-sticking-tongue-out-while-holding-red-chili-peppers.jpg](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fsistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com%2Fc%2F2545%2Fc4c13df9-4730-43e2-ad9b-1718ecc31212.jpeg%3Fv%3D20240306131344%26ratio%3D0.668&w=1200&q=75)
นอกจากการออกกำลังกาย ยกเวท วิ่ง ปั่นจักรยาน กินอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหลายแล้ว เธอยังสามารถเพิ่มอัตราเผาผลาญได้อีก" เล็กน้อย "ด้วยการกินอาหารบางประเภท เช่น พริก และคาเฟอีนในกาแฟ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กล่าวว่า ดื่มกาแฟ 8 ออนซ์ ( ประมาณ 1 แก้ว ) ก่อนออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญประมาณ 3%
อย่าดื่มเยอะกว่านั้น เพราะถ้ามีคาเฟอีนมากเกินไปในร่างกายก็เป็นอันตรายได้!
อาหารรส " แซบ " และ " จัดจ้าน " อย่างแคปไซซินในพริก ช่วยเพิ่มอัตรา BMR ให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เกิดการเผาผลาญมากขึ้นเล็กน้่อย
แต่ผลที่ได้ก็ไม่ชัดเจนเท่าออกกำลังกายอยู่ดีใส่รองเท้าแล้วออกไปวิ่ง ชัวร์สุด!
====================================
จากบทความนี้ สาวๆ น่าจะได้รับความรู้เกี่ยวกับ " ระบบเผาผลาญ " หรือ " เมตาบอลิซึ่ม " ในร่างกายไปพอสมควรเลยทีเดียว!เราบอกตั้งแต่ระบบเผาผลาญทำงานยังไง อัตราเผาผลาญในชีวิตประจำวันคืออะไร เราจะเพิ่มการเผาผลาญในร่างกายด้วยการกินอาหารชนิดไหน เรียกว่าครบรสจริงๆ!
ความรู้บางข้อ เช่น อัตราเผาผลาญต่ำลงตามอายุนั้น เราสามารถชะลออัตรานั้นได้ด้วยการหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอถ้าเธอมีสุขภาพแข็งแรงตั้งแต่วัยรุ่น ย่อมอ้วนลงพุงยากกว่าคนที่ไม่ใส่ใจรูปร่างของตัวเองแน่นอน เตรียมตัวเนิ่นๆ ได้เปรียบอยู่แล้ว
บทความหน้าจะเป็นอย่างไรต้องติดตามนะคะ รับรองว่าได้สาระและความบันเทิงเน้นๆ! แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ ^_____^
====================================