สวัสดีค่ะสมาชิกครอบครัวชาวซิสต้าที่น่ารักทุกๆ คน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ยเราก็หวังว่าทุกๆ คนจะสบายดีมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์กันถ้วนหน้านะคะ  เปิดมาเจอบทความของเราอย่างนี้แน่นอนค่ะว่าเรามีเรื่องราวดีๆ มาฝากเช่นเคย ว่าแต่เป็นอะไรบ้างนั้นเลื่อนเม้าส์ตามเราไปอ่านได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ

รูปภาพ:http://s.isanook.com/he/0/ud/1/6341/hungry-1.jpg.jpg

เราว่าหลายๆ คนเคยประสบปัญหานี้แน่นอน นั่นก็คือ ความหิว นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ มันเป็นหนึ่งในกลไกของร่างกาย แต่ถ้าหิวบ่อยๆ ล่ะ ร่างกายเราผิดปกติรึปล่าว และบทความของเราวันนี้ก็เป็นบทความเกี่ยวกับ 5 สาเหตุของการหิวบ่อยค่ะ ไปอ่านกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

รูปภาพ:http://health.campus-star.com/app/uploads/2017/05/v01-1.jpg

1. เข้าใจความหิว

ความหิว

เป็นความรู้สึกที่มักจะเกิดเมื่อไม่ได้รับอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งมันเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายค่ะ เมื่อร่างกายไม่มีอาหารเพื่อเป็นพลังงานก็ต้องการอยู่รอดโดยส่งสัญญาณว่าควรจะบริโภคอะไรบางอย่างเข้าไป จะได้เกิดการสมดุล อาการหิวมักจะเกิดก่อนมื้ออาหารสามารถรับรู้ได้ทั้งทางกายภาพและทางจิตใจ ทางกายภาพที่บ่งบอกถึงความหิวเช่น มีเสียงท้องร้อง ปวดท้อง มือสั่น หน้ามืด ปวดหัว ไม่มีแรง ส่วนทางด้านจิตใจ เช่น ขาดสมาธิ หิว ดังนั้นการหิวไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ แก้ง่ายๆ ด้วยการทาน ( แต่พอดี ไม่งั้นอ้วนน้าาาาา )

2. ความอยากอาหาร

นอกจากจะพูดเรื่องความหิวไปแล้วอีกเรื่องนึงที่อยากกล่าวถึงก็คืออาการอยากอาหารค่ะ

อาการอยากอาหาร

เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากความหิว แต่ แต่ แต่! เรามักจะแยกไม่ได้ และเมื่ออยากก็จะทานทันที เราขอเรียกความอยากอาหารว่าความใคร่ที่ผู้ใช้ร่างกายต้องหลงค่ะ เพราะต้องเรียกได้ว่าเสร็จทุกราย เมื่ออยากก้ต้องรับประทานทันทีซึ่งในความเป็นจริงนั้นหากไม่ทานร่างกายก็ไม่เสียสมดุลค่ะ เรียกว่าทานเพื่อปรนเปรอความต้องการทางใจเสียมากกว่า และผลที่ตามมาก็คือ หากตามใจตัวเองบ่อยๆ เข้าก็จะมีรูปร่าง และน้ำหนักที่ไม่น่าปราถนานั่นเองค่ะ

รูปภาพ:http://public.elsol.com.ar/imagenes/000/933/682/000933682.jpg

3. สาเหตุการหิวบ่อย

1. ทานน้อยเกินไป

อาการหิวบ่อยนั้นอาจเกิดจากการที่มื้ออาหารมื้อก่อนๆ นั้นเราทานน้อยเกินไปค่ะ ทำให้เกิดอาการหิวเพราะพลังงานที่ร่างกายได้รับนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า เกรลิน ( ghrelin ) ออกมา เพื่อสั่งการไปยังสมองว่าเรากำลังหิว จากนั้นเราจึงต้องหาอะไรทานเพื่อกำจัดความหิวนั่นเองค่ะ แล้วร่างกายก็จะหยุดการหลั่งฮอร์โมนนนี้เมื่อร่างกายได้รับอาหารเพียงพอแล้ว

2.ปัจจัยทางอารมณ์เชื่อไหมว่า อารมณ์ส่งผลต่อความหิว! ไม่เชื่อลองสำรวจตัวเองดูนะคะ เวลาดีใจต้องการฉลองเราทำอะไร? ชวนแก๊งเพื่อนๆ ไปฉลองบุฟเฟ่ต์กันหรือเปล่า อ้าวแล้วเวลาเศร้าๆ หงุดหงิด หรือโกรธ เราทำอะไร กินระบายเครียดให้ลืมความกังวลหรือเปล่า ทีนี้เชื่อหรือยังคะว่าอารมร์ส่งผลต่อความหิว ดังนั้นทางแก้ไขคือไม่ว่าจะอารมณ์ไหนเราต้องมีสติที่จะควบคุมตัวเอง ฟังความต้องการของร่างกายให้มากกว่าอารมณ์ ลองทำดูนะค้าาาา

รูปภาพ:http://www.ideadigezt.com/wp-content/uploads/2015/11/eat-more-1.jpg

3. แยกไม่ออกว่าหิวหรืออยากกิน

พอแยกไม่ออกแล้วเนี่ยเราก็จะทานๆ ทั้งๆ ที่ไม่หิวและร่างกายไม่ได้ขาดอาหารแต่อย่างใด พอทำมากๆ เข้า บ่อยๆ ร่างกายก็จะชินจนติดเป็นนิสัย ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า อ้วน ไขมันพอกตัวนะคะ หากว่าอาหารที่ร่างกาย อยาก นั้นเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย ไม่ให้อะไรกับร่างกายนอกจากความอร่อย

4. หิวเพราะปัจจัยทางด้านร่างกาย สภาวะต่างๆ

ร่างกายเราก้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งค่ะที่ส่งผลต่อความหิว เช่น ช่วงเวลาสภาวะของร่างกายที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงประจำเดือน ผู้หญิงเราจะหิวบ่อยมากกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เราเพียงแค่ต้องควบคุมสติเมื่อจะตัดสินใจทานอะไรก็ตาม และเมื่อกลับมาสู่ภาวะปกติแล้วก็ทานอาหารที่มีประโยชน์ออกกำลังกายก็จะไม่อ้วนแล้วค่ะ

รูปภาพ:http://www.deodorethailand.com/images/photo.news/19/ti4.jpg

5. แยกไม่ออกว่าหิิวหรือกระหายน้ำรู้ไหมเอ่ยว่าการที่ร่างกายเราส่งสัญญาณว่าหิวนั้น บางทีอาจจะมาจากการที่เราดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็ได้นะคะ  เช่นการที่เราขาดน้ำไปร่างกายเราก็จะไม่สดชื่น เราต้องหาอะไรทานให้กะปรี้กะเปร่าจึงอาจจบด้วยของหวาน บิงซูอะไรเทือกๆ นี้ งั้นลองเอาทริคนี้ไปใช้ไหมคะ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าหิว ลองทานน้ำเปล่าไปซักแก้วหรือสองแก้ว ถ้ายังหิวอยู่ค่อยทานจริงๆ รับรองว่าน้องความอ้วนไม่มาใกล้เราแน่ๆ ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย หวังว่าบทความที่เรานำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนนะคะ ครั้งหน้าหากหิวเมื่อไหร่ลองคิดหาสาเหตุดูว่าเป็นหนึ่ีงในอาการที่กล่าวมาหรือเปล่า หากใช่ลองหาข้อมูลหรือนำแนวทางที่เขียนไว้ไปปรับใช้ดูนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ด้วยรักและสุขภาพดีถ้วนหน้า :)