สุขภาพใจก็สำคัญ 💔 มัดรวม 7 ทริคดูแล " สุขภาพจิต " ของตัวเอง เมื่อเจอเรื่องเครียดหรือความผิดหวัง

สวัสดีค่าชาว SistaCafe ♥ดูทางการจังเลยอะ แต่จริง ๆ เรื่องที่คุยก็มีความจริงจังและทางการอยู่ประมาณนึงเหมือนกันค่ะเพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของสุขภาพจิตนั่นเองมันเป็นอะไรที่อ่อนไหวและส่งผลกระทบกับร่างกายได้ด้วยก็เลยอยากที่จะใช้การพิมพ์ที่จริงจังขึ้นมานิดนึงนั่นเองค่ะ เอาล่ะ ๆ เข้าเรื่องดีกว่า คือเวลาเราเครียด เราผิดหวัง เราก็จะรู้สึกไม่ดีใช่ไหมละคะ บางคนอาจจะดีหน่อยที่แป๊บ ๆ ก็หาย แต่บางคนก็คือจมกับมันเป็นวัน ๆ หรืออาจจะเป็นสัปดาห์เลยก็ได้แบบนี้บอกเลยว่าสุ่มเสี่ยงที่สุขภาพจิตจะไม่โอเคมาก ๆ เลยค่ะ วันนี้เราก็เลยจะมาบอกทริคในการดูแลสุขภาพจิตของเราเองให้มันดีขึ้นถ้าพร้อมจะไปดูแล้วว่ามีข้อไหนน่าสนใจบ้างก็มาอ่านกันเลยค่า ♥

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

♥ 7 ทริคดูแล " สุขภาพจิต " ของตัวเอง เมื่อเจอเรื่องเครียดหรือความผิดหวัง ♥

1. ยอมรับความเป็นจริง

การยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เราผิดหวังหนะมันเกิดขึ้นแล้วนะมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ที่เราเครียด ที่เราผิดหวังอยู่เนี่ยเรารู้สึกได้ อนุญาตให้ตัวเองรู้สึก ไม่ต้องไปปิดกั้นมัน เพียงแต่ว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองรู้สึกกับมันนานเกินไปเท่านั้นเองค่ะ แล้วก็อย่าไปพาลเอาอารมณ์ที่เราเครียดที่ผิดหวังในใจออกมาทำร้ายคนรอบข้างไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำก็ตามนะคะ มันจะไม่ส่งผลดีกับใครเลย ดังนั้นเนี่ยยอมรับความจริงว่ามันเกิดขึ้นแล้วมันคือสิ่งที่เราต้องเผชิญและผ่านมันไปให้ได้เสียใจได้นะแต่อย่านานเกินไป คิดแค่นี้ก็จะช่วยให้จิตใจเรารู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ

2. หาอะไรทำเพื่อลืมความรู้สึกพวกนั้นไป

การหาอะไรทำ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การเล่นเกม การฟังเพลง การดูหนัง การร้องเพลง เล่นดนตรีอะไรก็แล้วแต่ล้วนแต่ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นทั้งหมดเลยค่ะ คือการทำอะไรพวกนี้มันเหมือนได้ระบายความเครียด ความผิดหวัง ความเศร้าในใจออกไปบ้าง พอได้เอามันออกไปบ้างก็ทำให้เรารู้สึกเบาใจขึ้น มีเรื่องให้คิดน้อยลงเปรียบเทียบเหมือนตอนแรกเรามีน้ำเต็มแก้วแต่พอเอามาเขย่า ๆ น้ำมันก็กระฉอกออกมาจากแก้ว มันก็เหมือนกับความรู้สึกคนเรานั่นแหละค่ะ พอมีอะไรมากระตุ้นให้ได้ระบายออก มันก็จะรู้สึกดีขึ้นนั่นเอง

3. ออกไปเที่ยวหรือพักผ่อนบ้าง

ถ้าทำนั่นทำนี่แล้วยังไม่ดีขึ้นแนะนำว่าให้ออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านเลยค่ะ จะไปต่างจังหวัด ไปเดินห้าง หรือไปเดินเล่นในสวนต่าง ๆ อะไรพวกนี้ก็คือช่วยได้เหมือนกันนะคะ คือการอยู่บ้านตลอดมันก็อาจจะทำให้รู้สึกหดหู่และเครียดกว่าเดิมคือจากที่เครียกอยู่แล้ว ก็คือเครียด x2 ไปเลยค่ะ ดังนั้นเนี่ยเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้นการเปลี่ยนบรรยากาศไปที่นั่นที่นี่ก็ช่วยให้จิตใจเราผ่อนคลายมากขึ้นปัญหาสุขภาพจิตที่อาจจะเกิดก็จะหายไปได้ก่อนนั่นเอง

4. หาทางแก้ไขแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป

เวลาเราเครียดและผิดหวังมักจะรู้สึกว่าสมองตันคิดอะไรไม่ออกยิ่งพยายามคิด ยิ่งเร่งเร้าให้ตัวเองแบบคิดให้ออกสิว่าจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง จะทำยังไงได้บ้างมันเป็นการกดดันตัวเองมากไปค่ะ ซึ่งจากที่เราก็เครียดด้วยปัญหานั้น ๆ อยู่แล้ว ยิ่งมาเจอตัวเองกดดันตัวเองเข้าไปอีก บอกเลยว่าปวดหัวตุ้บ ๆ แน่นอนค่ะ ใครที่เป็นไมเกรนอะไรแบบนี้คือระวังไว้เลยน้า คิดมาก เครียดมากอาจจะลงกระเพาะได้ด้วย ทีนี้แหละค่ะจะไม่ใช่แค่สุขภาพจิตที่เสียแล้ว แต่เป็นสุขภาพร่างกายด้วย ดังนั้นเราต้องค่อย ๆ คิด ถ้าคิดไม่ออกก็ปล่อยใจไปก่อนนะคะยิ่งกดดันยิ่งไม่ช่วยอะไรน้า

5. พักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารที่มีประโยชน์

การพักผ่อนให้เพียงพอส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของเราด้วยเช่นกันนะคะ เคยสังเกตกันไหมคะว่าเวลาเรานอนดึกหรือนอนหลับไม่เพียงพอบ่อย ๆ เข้าจะทำให้เราอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่ายมาก ๆ แต่ตอนที่เราได้หลับเต็มอิ่ม จะอารมณ์ดีกว่า นั่นแหละค่ะเลยต้องพักผ่อนให้มาก ๆ นะคะ แล้วก็อย่าลืมทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานให้ครบ 5 หมู่แล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าให้เยอะ ๆด้วยนะคะ ถ้าร่างกายเราสุขภาพดี ก็จะทำให้สุขภาพจิตดีไปด้วยเช่นกันน้า

6. ระบายความรู้สึกออกมาบ้าง

หลาย ๆ คนรอบตัวเราที่มีปัญหาสุขภาพจิตมักจะไม่ค่อยพูดปัญหาออกมาค่ะ เพราะเขารู้สึกว่าการไปพูดปัญหาพวกนี้ใส่คนอื่นเหมือนเอาความเครียดไปโยนใส่เขา ซึ่งจริง ๆ แล้วเนี่ยเราสามารถระบายออกมาได้นะคะ โอเคบางคนอาจจะกังวลกลัวว่าคนอื่นจะไม่อยากรับฟัง งั้นแนะนำให้พิมพ์หรือเขียนในโน้ตเลยค่ะ เขียนระบายออกมาเลย วิธีการพวกนี้จะช่วยให้เรารู้สึกสบายและโล่งมากยิ่งขึ้นถึงแม้จะไม่มีใครรับฟังก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่มันจะสบายใจขึ้นเหมือนกัน ส่วนใครที่มีคนให้พูดคุยได้ก็ไประบายปัญหาให้เขาฟังได้นะคะ เราเชื่อว่าเขาจะเข้าใจและคอยปลอบโยนเราแน่นอนค่ะ ♥

7. ถ้าไม่ดีขึ้นเลยควรไปพบจิตแพทย์

ถ้าลองทำทุกวิธีทางแล้วแต่มันก็ยังไม่ดีขึ้น แล้วยังมีแววจะแย่ลง ๆ รู้สึกจมดิ่ง รู้สึกไม่ดี มองโลกในแง่ร้ายทางเราขอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์นะคะ คือเรื่องนี้อย่าคิดว่ามันรักษาด้วยเวลาได้นะคะ ไม่ได้แน่นอนเลย พวกนี้ต้องมีการได้รับคำแนะนำจากคุณหมอที่เชี่ยวชาญบางคนมีภาวะนอนไม่หลับอะไรพวกนี้ก็จะต้องกินยาร่วมด้วย ดังนั้นเนี่ยถ้ารูสึกว่าตัวเองไม่ค่อยโอเคแล้ว รู้สึกแย่มากแล้วก็แนะนำให้ไปพบคุณหมอนะคะ อย่าไปกลัวว่าคนจะมองไม่ดีคนที่มอง

เราไม่ดีนั่นแหละค่ะที่จะต้องรู้สึกละอายมันเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ไม่อยากให้ทุกคนกลัวแล้วไม่กล้าไปนะคะ ♥

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

ครบทั้ง 7 ข้อแล้วค่า ถ้าใครทำ 6 ข้อแรกแล้วยังไม่ดีขึ้นก็ต้องไปทำข้อที่ 7 นั่นก็คือการไปพบจิตแพทย์แล้วน้า อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีหรือน่าอายนะคะ เพราะสุขภาพจิตของเรามันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากขืนปล่อยไว้แล้วมันแย่ลง จะส่งผลกระทบอื่น ๆ ตามมาได้ โดยเฉพาะกับสุขภาพกายที่อาจจะมีผลพวงมาจากสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงด้วยไม่อยากให้ทุกคนมองข้ามแล้วคิดว่ามันจะดีขึ้นเองนะคะ ถ้าจมดิ่งนานเกินจนรู้สึกว่ามันผิดปกติไปแล้ว ก็รีบไปหาคุณหมอน้า เอาล่ะ! ตอนนี้เราก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แต่ก่อนจะไปก็อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพทั้งกายและใจให้ดีเสมอ ๆ นะคะไว้พบกันใหม่ในบทความหน้าค่า บ๊ายบาย ♥