ไม่ได้มีแค่ส้มตำที่เผ็ชได้! รวม 6 ตำแหน่งจิวน่าเจาะ เพื่อเปิดโหมดความฮอตแบบใหม่ๆ 💠🔥

การใส่สร้อย หรือสวมแหวนนี่อาจจะดูธรรมดาไปสำหรับคนที่อยากเพิ่มความคูลให้กับตัวเองในอีกสเต็ปหนึ่งสวัสดีค่าาซิส! สบายดีแฮปปี้กับชีวิตกันไหมเอ่ยช่วงนี้? เราคิดว่าเพื่อนๆ ที่กำลังอ่านบทความนี้น่าจะเอาอยู่ และกำลังอยู้ในโหมดอยากลองทำอะไรที่แตกต่างออกไปบ้างแน่นอนซึ่งวันนี้เราก็ได้รวม 6 ตำแหน่งจิวน่าเจาะ เพื่อเปิดโหมดความฮอตแบบใหม่ๆ มาฝากเพื่อนๆ ที่อยากเสริมลุคที่ดูเซ็กซี่ เผ็ช คูล ในเวอร์ชันที่โตมากขึ้นเล็กน้อย เริ่ดที่สุด!

ย้ำเตือนกันสักนิด! หลังจากเจาะเสร็จ ต้องไม่ลืมดูแลความสะอาดในตำแหน่งที่เราเลือกเจาะด้วยน้า เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อด้วยนั่นเอง เอาละค่ะ! เราว่าเพื่อนๆ พร้อมที่จะไปดูกันแล้วเพราะฉะนั้นเราก็อย่ารอช้าแล้วไปดูกันเลยดีกว่า

✧･ﾟ: 6 ตำแหน่งจิวน่าเจาะ เพื่อเปิดโหมดความฮอตแบบใหม่ๆ *:･ﾟ✧

1. หู

ระดับความเจ็บติ่งหู: 1/5

ระดับความเจ็บกระดูกอ่อน

: 2-3/5 (daith, rook, conch)

ประเดิมกับตำแหน่งเจาะจิวที่เบสิคที่สุดอย่าง

หู

ก่อนเลยละกันนะจ๊ะ โดยการเจาะหูโดยเฉพาะติ่งหูถือเป็น

ตำแหน่งที่ทำได้ง่ายที่สุด และสามารถทำให้คนอื่นเห็นจิวของเราได้ชัดด้วย

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กลัวเจ็บแต่ก็อยากลองเจาะจิวบนร่างกายตรงไหนก็ได้ดูสักครั้ง เราก็แนะนำให้เพื่อนๆ

เจาะตรงติ่งหูนี่แหละค่ะดีที่สุด

แต่สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เบื่อบริเวณติ่งหูก็ลองขยับไป

เจาะที่กลางหูไปจนถึงด้านบน เพื่อทำให้หูและใบหน้าของเพื่อนๆ ดูเด่นและมีเสน่ห์ขึ้นได้เลย

2. สะดือ

ระดับความเจ็บ: 1/5

ตำแหน่งจิวน่าเจาะรองจากหูที่เห็นได้ง่าย และดูเก๋สุดๆ ก็คือสะดือนี่แหละจ้าที่เจาะแล้วเจ็บไม่มาก แถมดูเซ็กซี่สุดๆด้วย โดยโอกาสที่เราจะโชว์จิวบนสะดือได้ก็จะเป็นตอนที่เราใส่เสื้อเอวลอยหรือบีกีนี่นั่นเอง ซึ่งเอาจริงๆ สะดือถือเป็นตำแหน่งที่เราอยากเจาะจิวมากที่สุดเลยถ้ามีโอกาส เพราะเรารู้สึกว่าการเจาะจิวยังไงให้มีเสน่ห์ คือเราไม่จำเป็นที่จะต้องเจาะในตำแหน่งที่คนอื่นสามารถมองเห็นตลอดเวลาก็ได้แต่อยากให้เห็นเป็นบางโอกาสที่พิเศษออกไปมากกว่า

3. คิ้ว

ระดับความเจ็บ

: 1/5

มาถึงตำแหน่งเจาะบริเวณใบหน้ากันแล้วว ซึ่งก็แน่นอนว่าใบหน้าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างเซนซิทีฟและมีเส้นประสาทเยอะมากดังนั้นบริเวณที่เราเลือกเจาะก็จะมีความเจ็บที่แตกต่างกันออกไป แต่ตำแหน่งเจาะจิวบนใบหน้าที่เจ็บน้อย แถมได้รับความนิยมมากที่สุดก็ต้องบอกว่าเป็นบริเวณคิ้วนี่แหละที่เจาะแล้วเจ็บไม่มาก แถมแผลก็หายเร็วด้วยเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากดูคูลและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองระยะสั้นๆ ในรูปแบบที่ไม่ใช่การสัก

4. จมูก

ระดับความเจ็บ

: 2/5

ถัดมาจากคิ้วก็เป็น

จมูก

นี่แหละจ้า ที่ตอนเจาะนี่เจ็บไม่ใช่เล่นเลย เพราะแถวจมูก

เป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทเยอะ ทำให้เรารู้สึกเจ็บจี๊ดสักหน่อย

แต่หลังจากนั้นมาก็ง่ายแล้ว เพราะการเจาะจิวบริเวณจมูกสามารถ

ดูแลได้ไม่ยากเท่าไหร่

แถมการเจาะจมูกก็

มีหลากหลายแบบ และได้รับความนิยมมากๆ เช่นเดียวกัน

5. ริมฝีปาก

ระดับความเจ็บ: 3/5

เซ็กซี่ไม่ไหว กับการเจาะจิวบนริมฝีปากซึ่งก็อย่างที่เพื่อนๆ รู้ว่าริมฝีปากเป็นอวัยวะบนร่างกายที่มีเส้นประสาทเยอะสุดๆ แค่มีอะไรมาสัมผัสปากเบาๆ เราก็รู้สึกได้แล้วดังนั้นการเจาะปากจึงเจ็บมากในระดับปานกลางเลยหลังทำเสร็จคือเอาจริงๆ เราว่าผลลัพธ์ของการเจาะปากนี่งานดีย์จริงๆ แต่สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่รู้ตัวว่าจะรู้สึกรำคาญได้ง่าย หากเรามีอะไรทิ่มๆ อยู่ในปากตลอดก็ลองหาข้อมูลให้ดีก่อนไปเจาะด้วยนะคะ

6. หัวนม

ระดับความเจ็บ

: 4/5

หูยยย แบบลากเสียงยาวๆ เลยจ้าสำหรับตำแหน่งเจาะจิวที่สุดท้าย นั่นก็คือ

หัวนม

นั่นเอง คือเอาจริงๆ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเขาเจาะจิวตำแหน่งนี้กันด้วยหรอ หรือ แล้วพวกเขาจะโชว์กันยังไงใช่ไหมคะ คือเอาจริงๆ คนเอเชียอาจจะไม่ค่อยนิยมเจาะจิวตรงนี้กันเท่าไหร่

เพราะบริเวณนั้นบอบบางและมีเส้นประสาทเยอะมากๆ ทำให้มันดูไม่อำนวยสุดๆ ถ้าจะเอาอะไรมาเจาะหรือทิ่มเอาไว้

ซึ่งจากมุมคนที่เลือกเจาะจิวเชื่อว่า การเจาะจิวที่หัวนมจะสามารถ

ช่วยขับเคลื่อนอารมณ์ทางเพศของผู้หญิงได้ง่ายขึ้น

และ

ดูสวยงามเวลาใส่เสื้อผ้าบางๆ แบบ no bra

เขาก็เลยเจาะหัวนมแล้วติดจิวกันนั่นเอง แต่เราขอเตือนเพื่อนๆ ที่คิดจะเจาะจิวที่หัวนมว่าต้องคิดให้ดีก่อนจริงๆ นะคะ เพราะจุดนี้นี่ทำแล้วเจ็บมากจริงๆ ค่ะ

✧･ﾟ: *✧･ﾟ:* *:･ﾟ✧*:･ﾟ✧

เป็นยังไงคะทุกคน

ไม่ได้มีแค่ส้มตำที่เผ็ชได้ แต่เราก็เผ็ชได้ค่ะ!

บอกเลยว่าทั้ง

6 ตำแหน่งจิวน่าเจาะ

ที่เราเอามาฝากในวันนี้

อันที่จริงยังมีอีกหลากตำแหน่งบนร่างกายที่สามารถเจาะจิวได้อีกนะคะ เพียงแต่เราอาจจะไม่ได้ยกมาทั้งหมด เพราะรู้สึกว่าบางอันอาจจะดูแลยากเกินไปสักหน่อย

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากเจาะจิวจริงๆ ก็ลองดูวิธีเตรียมตัวก่อนไปเจาะและการดูแลรักษาตำแหน่งนั้นๆ ให้ดีด้วยนะคะ

ยังไงไว้ครั้งหน้าเราจะหาบทความสนุกๆ มาฝากเพื่อนๆ อีก สำหรับวันนี้เราต้องไปก่อนแล้วนะคะ บ๊ายบายย

TYPES OF BODY PIERCINGS FEMALEhttps://www.body-piercing.com/blog/types-of-body-piercings-female/

Piercing Pain Level Charthttps://www.thechaingang.com/article/piercing-pain-level-chart/