5 อาหาร ❌ห้ามทาน❌ หากมีอาการ "วิตกกังวล" 😨

อาการวิตกกังวล

ถึงแม้จะไม่ได้ร้ายแรงหนักหนา แต่ก็

ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

ของเราน่าดูเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ

ความคิด, ความรู้สึก และอาการอื่นๆ

อีกมากมาย อย่างเช่น

จู่ๆ ก็รู้สึกตระหนก ตื่นกลัวขึ้นมาในช่วงระยะสั้นๆ มีอาการมือสั่น ใจเต้นแรง

และบางรายก็มีอาการคล้ายๆ กับว่าเป็นโรคหัวใจ

โดยอาการเหล่านี้ควรจะไปปรึกษาแพทย์ เพื่อเช็คให้ดีว่าเราเป็นโรคอื่นจริงๆ หรือเป็นเพียงอาการวิตกกังวล

ซึ่งถึงจะไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง แต่ก็ทำให้เกิดความทรมานในการใช้ชีวิต

และ

สิ่งหนึ่งที่อาจเป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการวิตกกังงล หรืออาการซึมเศร้า

ก็อาจเกิดมาจาก 5

อาหารต้องห้าม สำหรับคนมีอาการวิตกกังวล

เช่นกัน ลองไปดูกันเลยจ้า

5 อาหาร " ห้ามทาน " หากมีอาการ " วิตกกังวล "

1. คาเฟอีน

ใครๆ ก็รู้ว่า คาเฟอีนนั้นมีอยู่มากในกาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง, น้ำชา และช็อคโกแลต และ

คาเฟอีนจะไปทำให้ระบบประสาทตื่นตัว

เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายแอ็คทีฟในระยะหนึ่ง แต่สำหรับใครที่มี

อาการวิตกกังวล ต้องระวังไว้ให้ดีเลยนะ

เพราะว่าหากคุณรับคาเฟอีนเข้าไป อาจจะทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นแรง และหายใจถี่ขึ้นได้

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเอาไว้ว่า คาเฟอีนจะทำให้อาการแย่ขึ้น เนื่องจาก

จะทำให้เกิดอาการกระวนกระวายใจ, หัวใจเต้นผิดปกติ, อาการประหม่า และอาการปวดหัว

ดังนั้นใครที่มีประวัติ หรือ

เป็นโรควิตกกังวล ควรจะงดคาเฟอีน  นอกจากนี้ ใครที่เป็นคนขี้กังวล หรือติดคาเฟอีนก็เข้าข่ายเสี่ยงเช่นกัน

2. แอลกอฮอล์

ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีอาการวิตกกังวล มักจะมีการใช้แอลกอฮอล์เพื่อระงับอาการทั้งหลายเพราะทุกคนมักคิดกันไปเองว่าเหล้าน่าจะจัดเป็นตัวช่วยในการกล่อมประสาทชั้นดีซึ่งน่าจะช่วยแก้ปัญหาไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ แต่เปล่าเลยผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเอาไว้ว่าการใช้แอลกอฮอล์เพื่อระงับอาการวิตกกังวลอาจจะกลายเป็นผลเสียซะมากกว่า แถมอาจก่อให้เกิดอาการวิตกกังวลด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้คนมากกว่า  7% ในสหรัฐ ถูกพบว่ามีอาการกลัวการเข้าสังคม และ มีผู้ที่ทรมานจากโรคแอลกอฮอล์ถึง 20%ดังนั้นหากคุณคิดว่าตัวเองก็เข้าข่ายอาการนี้ล่ะก็ พยายามอยู่ให้ห่างจากแอลกอฮอล์น่าจะดีที่สุด

3. น้ำตาล

จากงานวิจัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวเอาไว้ว่าสารโซโรโทนินนั้นอาจทำให้โรควิตกกังวลหนักขึ้นกว่าเดิม และน้ำตาล ก็คือตัวเหตุหลักๆ ที่จะทำให้ระดับเซโรโทนินเพิ่มมากขึ้นครั้งหนึ่งเคยมีงานวิจัย ของผู้ป่วยกลัวการเข้าสังคม ด้วยวิธีการ PET Imaging ภายใต้การควบคุมของ หน่วยงานผู้เชี่ยวชาญมาแล้วด้วย

PET Imaging คือเทคโนโลยีที่จะทำให้เรามองเห็นภาพกระบวนการเมตาบอลิซึ่มภายในร่างกาย และก็พบว่าในผู้ป่วยที่มีอาการกลัวการเข้าสังคม จะมีระดับเซโรโทนินที่สูงขึ้นจริงๆ

4. ไขมันทรานส์

ถ้าพูดถึงไขมันทรานส์ล่ะก็ ทุกคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของอาหารประเภทนี้กันมาอย่างดีเลยแหละ เพราะมันถูกจัดว่าเป็นอาหารที่แย่ที่สุดสำหรับร่างกายเราเลยแต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านอกจากไม่ดีต่อสุขาภาพร่างกายแล้ว ยังไม่ดีต่ออารมณ์ของเราด้วยนะ

จากงานวิจัยของPLOS ได้กล่าวเอาไว้ว่าไขมันทรานส์นั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงของสภาวะโรคซึมเศร้าอีกต่างหาก  นอกจากนี้มีนักวิจัยชาวเสปนได้ทำการตามวิจัยบุคคลที่จบมหาวิทยาลัยแล้วกว่า 12000 คน ที่ไม่มีสภาวะโรคซึมเศร้า มาตลอด 6 ปี เพื่อติดตามพฤติกรรมการกินไขมันหลายๆ ประเภท และติดตามการเกิดสภาวะซึมเศร้า

ซึ่งในงานวิจัยนั้นพบว่า เหตุผลที่ทำให้อาหารประเภทไขมันทรานส์นั้นเพิ่มอาการของโรคซึมเศร้า เป็นเพราะการระคายเคือง และการการทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรงในเส้นเลือดที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

5. กลูเต็น

Celiac Disease หรือโรคแพ้กลูเตนคือโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อกลูเต็น ( อยู่ในข้าวสาลี ข้าวไรย์ บาร์เลย์ และผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี )เป็นโรคที่มีผลกับอาการโรคซึมเศร้าและความผิดปกติทางด้านอารมณ์จากงานวิจัยพบว่าผู้ที่แพ้กลูเต็น มักจะมีอาการของโรคซึมเศร้า เมื่อเทียบในกลุ่มที่ถูกวิจัย

หากเป็นไปได้ทุกคนควรจะไปปรึกษาแพทย์ว่าตัวเองแพ้อาหารอะไรรึเปล่านะ เพื่อความปลอดภัยของร่างกายจ้า

อาการวิตกกังวล และสภาวะซึมเศร้านั้นสามารถรักษาให้หายได้ หากเรามีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

และอาหารที่เรากินเข้าไปสำคัญ ก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุแห่งโรคเหล่านี้

ฉะนั้นหากเลือกกินให้ดี ก็จะช่วยควบคุมอาการ และโรคบางโรคให้ไม่กำเริบได้นะจ๊ะ

Cr : 5 Foods To Avoid If You Have Anxietyhttps://www.providr.com/foods-to-avoid-if-you-have-anxiety/?utm_source=TrendCrown&utm_medium=facebook&utm_campaign=providr