วนกลับมาในเดือนมิถุนายน เดือนแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride สำหรับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ เพื่อยืนยันสิทธิ ความเท่าเทียม และเสรีภาพที่บุคคลเหล่านี้พึงมี จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ใน สโตนวอลล์อินน์ (Stonewall Inn) ณ เมืองนิวยอร์กเมื่อปี 1969 ที่มาจากการประท้วงต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากตำรวจที่บุกเข้าทำร้ายผู้คนในบาร์เกย์ สู่การเรียกร้องสิทธิและแสดงจุดยืนที่ควรจะพึงมีในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเช่นเดียวกัน จึงทำให้ขบวนการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงเหตุการณ์ ณ สโตนวอลล์ ถูกเผยแพร่อย่างหลากหลายเพื่อแสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมจำนนต่อการกดขี่ จนในปีถัดมาและถึงปัจจุบันนี้ ทำให้ทุก ๆ เดือนมิถุนายน กลายเป็นเดือนเทศกาลเพื่อการสนับสนุนกลุ่มชุมชน LGBTQ+ นั่นเอง เช่นเดียวกันกับแบรนด์ Dr. Martens ที่ได้ทำแคมเปญเฉลิมฉลอง Pride Month ที่มีชื่อว่า "Dr. Martens x Pride" เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในสังคม
Dr. Martens X PRIDE"THEN, NOW, ALWAYS"
วนกลับมาในเดือนมิถุนายน เดือนแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride สำหรับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ เพื่อยืนสิทธิ ความเท่าเทียม และเสรีภาพที่บุคคลเหล่านี้พึงมี จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ใน สโตนวอลล์อินน์ (Stonewall Inn) เมืองนิวยอร์กเมื่อ มิถุนายน 1969 ที่มาจากการประท้วงต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากตำรวจที่บุกเข้าทำร้ายผู้คนในบาร์เกย์ สู่การเรียกร้องสิทธิและแสดงจุดยืนที่ควรจะพึงมีในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเช่นเดียวกัน จึงทำให้ขบวนการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงเหตุการณ์ ณ สโตนวอลล์ จึงถูกแพร่หลายถัดมาในปีต่อมา จนถึงปัจจุบันและกลายเป็นเทศกาลเพื่อสนับสนุน community LGBTQ+ นั่นเอง
วันนี้ซิสเลยขอมานำเสนอสินค้าคอลเลกชันใหม่ต้อนรับแคมเปญ PRIDE MONTH จากแบรนด์ Dr. Martens ที่ไม่ใช่เพียงแค่นำเสนอคอนเซปต์เพียงเท่านั้น แต่การันตีด้วยการสนับสนุน Trevor Project จากการเป็นพาร์ทเนอร์ตลอดมาจนเข้าสู่ปีที่ 7 กันอย่างยาวนานเลยทีเดียว!
The Trevor Project คือ?
The Trevor Project คือองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการพยายามทำร้ายตัวเองในกลุ่ม เลสเบี้ยน เกย์ ทรานส์เจนเดอร์ เควียร์ หรือกลุ่ม LGBTQ+ นั่นเอง ซึ่งจุดมุ่งหมายขององค์กรคือการให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินสำหรับเด็กหรือกลุ่มวัยรุ่นต่ำกว่า 25 ปี และให้คำแนะนำกับผู้ปกครอง เพื่อความปลอดภัยทั้งภายในบ้าน ในโรงเรียน และในรั้วมหาลัย โดยทางแบรนด์ Dr. Martens นั้นได้ให้การสนับสนุนกับกลุ่ม The Trevor project ด้วยการบริจาคเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 200,000$ ต่อปี เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนและอยู่เคียงข้างกลุ่ม community LGBTQ+ นั่นเอง
คอนเซปต์ของทางแบรนด์ Dr. Martens คือ "Walk with Pride" ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักเพื่อแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของกลุ่มเพศหลากหลายในทุก ๆ ย่างก้าว เสมือนกับการเดินเฉลิมฉลองใน Pride Month และการขบถต่อวัฒนธรรมเก่า ทำให้ในทุก ๆ ย่างก้าวสามารถแสดงออกถึงตัวตนได้อย่างเต็มที่
ซึ่งซิสขอพาทุกคนไปชมกับตัวอย่างแคมเปญที่ทาง Dr.Martens ได้ทำในช่วงปีที่ผ่านมาในเทศกาล Pride ไปพร้อมกันเลยค่า~
โดยในปีนี้เพื่อต้อนรับ PRIDE MONTH ทางแบรนด์ Dr. Martens ได้ออกสินค้าใหม่มาหลายรายการเพื่อโชว์ดีไซน์จากดีไซน์เนอร์ที่วาดลวดลายเพื่อโชว์ทั้งศักยภาพและแนวคิดสนับสนุนต่อชุมชน LGBTQ+ ซึ่งได้แก่ Fuyuki Kanai และ Loveis Wise ซึ่งเป็นการ commission ศิลปิน Queer เพื่อออกแบบรองเท้าในคอลเลกชันใหม่แบบ Limited Edition เพื่อ PRIDE 2023 ในเดือนนี้!
ด้วยการสนับสนุนฉันทามติและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกลุ่ม LGBTQ+ ทางแบรนด์ Dr. Martens จึงได้ทำการ commission ศิลปิน Queer เพื่อออกแบบรองเท้าในคอลเลกชันใหม่แบบ Limited Edition เพื่อ PRIDE 2023 ในเดือนนี้!
Dr. Martens X PRIDE
FUYUKI KANAI
"Having a place we are connected with thoughts or ideas and can be together is a community"
"Fuyuki Kanai" ศิลปินและนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่ได้ทำการออกแบบดีไซน์ collaborating กับทางแบรนด์ Dr. Martens ซึ่งทางศิลปินเองนั้นก็ได้สนับสนุน community LGBTQ+ ตลอดมาผ่านทางผลงาน ตัวอย่างเช่น "Long Way Home" ที่เป็นงานวาดโดยตัวของเขาเองลงบนกระดาษด้วยความต้องการที่จะกล่าวถึงคอนเซปต์ประเด็นเรื่อง 'toxic masculinity' ความเป็นชายที่เป็นพิษ และทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักที่ Fuyuki เองต้องการใช้งานศิลปะเพื่อสื่อสารประเด็นนี้ให้ผู้คนเข้าใจถึงตัวตนได้มากขึ้น และนอกเหนือจากนี้ภายในคอมมิคเองยังมีการพูดถึงประเด็นเรื่อง "homogenized" ซึ่งหมายถึงการทำให้เป็นกลุ่มหนึ่งเดียวกันและกลมกลืนกันภายในสังคมกลุ่ม LGBTQ+ เช่นเดียวกัน
โดยสำหรับ Pride 2023 ครั้งนี้ Fuyuki Kanai ได้ออกแบบรองเท้าที่มีชื่อว่า "1460 boot" ซึ่งเป็นรองเท้าที่มีดีไซน์ของมังงะอยู่บนหนัง classic DMS sole ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ Dr. Martens เอง โดยต้องการสื่อถึงคอนเซปต์ "a happy and peaceful world" โดยใช้สีขาวดำและการวาดสไตล์มินิมอลเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันและการถูกยอมรับในสังคม ซึ่งดีไซน์นี้เปรียบเสมือนคำเชิญที่สามารถเปิดกว้างให้กับทุกเพศและเชื้อชาติโดยที่ปราศจากการแบ่งแยกและการถูกจับตามอง!
บอกเลยว่าคอนเซปต์ของ Fuyuki นั้นตอบโจทย์กับแคมเปญ Pride then, Pride Now, Pride Always ของทาง Dr. Martens จริง ๆ ค่า ~
LOVEIS WISE
"That immense love when you're dancing and all the places that it takes you to"
ถัดมา ศิลปินคนที่สองที่ได้ร่วมออกแบบดีไซน์สำหรับ Pride 2023 ครั้งนี้คือ "Loveis Wise" นั่นเอง โดย Loveis Wise เป็นศิลปินและนักวาดช่างฝันที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของกลุ่ม trans และ non-binary เพื่อให้ผู้คนในสังคมเข้าใจถึงกลุ่มคนเหล่านี้และเล็งเห็นถึงการมีอยู่ของความหลากหลายในสังคมโดยผ่านงานของเขาเอง ตัวอย่างเช่นภาพวาดจากหนังสือ "The People to Remember" ที่มีภาพการ์ตูนสีสันสวยงามและเป็นหนังสือที่อ่านง่ายสำหรับเด็กค่า ~
สำหรับดีไซน์ในการร่วมงานกับ Dr. Martens ครั้งนี้ Loveis ได้ทำการออกแบบรองเท้ารุ่น Jardon Boot ซึ่งเป็นรองเท้าบูทหนังสีดำประดับด้วยลวดลายที่ Loveis สร้างสรรค์ด้วยโทนเฉดสีชมพู สีฟ้า และสีเขียว ลงบนพื้นผิวของหนังที่เปรียบเสมือนผ้าแคนวาส ซึ่งคอนเซปต์ของดีไซน์นั่นก็คือ "Love is a gateway, love is a portal, love is something that we all can connect with" โดยต้องการสื่อถึงความรักคือสิ่งที่สามารถเชื่อมมนุษย์และผู้คนเข้าด้วยกัน และนอกจากนี้ยังมีการประดับตกแต่งด้วยเชือกรองเท้าที่มาพร้อมกับจี้ลูกบอลดิสโก้ในเฉดสีเดียวกันกับลวดลายบนหนังนั่นเองค่า
โดยดีไซน์จาก Loveis นั้นสามารถเข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัยด้วยความเก๋ของรองเท้าบูทสีดำที่ยังคงความเท่ของแบรนด์ Dr. Martens สามารถเข้ากันกับโทนสีที่แสดงถึงความสดใสในคอนเซปต์ "possibilities of joy and the possibility of sweetness of compassion " ที่ทาง Loveis เองต้องการนำเสนอผ่านผลงานของเขา
เป็นยังไงกันบ้างคะกับแคมเปญของ
Dr. Martens X PRIDE
ที่
นำมาให้ทุกคนชมกันวันนี้ บอกเลยว่าดีไซน์ของทางศิลปินทั้งสองคนทั้งสวย เก๋ และมีคอนเซปต์ที่เข้ากับเทศกาล Pride Month จริง ๆ ค่า ~ และที่พลาดไม่ได้คือสินค้าคอลเลกชันนี้เป็นสินค้า Limited Edition ซึ่งวางขายแล้วภายในเว็บไซต์ของทาง
Dr. Martens
เองโดยที่นอกเหนือจากการเป็นส่วนหนึ่งในการซื้อสินค้าแล้วนั้น ทุกคนยังถือว่าเป็นส่วนสนับสนุนในการบริจาคให้กับองค์กร The Trevor project ซึ่งทาง Dr. Martens เองเป็นผู้บริจาคให้ในตลอดทุกปีที่ผ่านมาค่า รีบไปช้อปกันก่อนสินค้าจะหมดน้า ~
