ฮัลโหลล! เพื่อนๆ ซิสต้าคาเฟ่ทุกคน

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยตกถี่จนหลายๆ ที่น้ำท่วม แล้วทำให้เราต้องเดินย่ำฝนกลับบ้านกันเลยทีเดียว

ซึ่งสำหรับหลายๆ คนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าน้ำฝนที่ขังอยู่บนทางเท้าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะสกปรกมากๆ เลย

เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ ข้อควรรู้! Do&Don't หลังเดินย่ำฝน เพื่อสุขภาพเท้าที่ดี ทำตามง่ายๆ ดังนี้เล้ยย~

6 ข้อควรรู้ Do&Don't หลังเดินย่ำฝน เพื่อสุขภาพเท้าที่ดี

1. Wear appropriate shoes. ( ใส่รองเท้าที่ค่อนข้างมิดชิด )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/cd/7d/10/cd7d1000e071a322bfa8a7e45f51dc13.jpg

ถ้าเพื่อนๆ รู้ว่าถนนที่เราต้องเดินผ่านมีฝนตกจนน้ำขังหรือต้องเดินผ่านน้ำท่วมอย่างเลี่ยงไม่ได้ล่ะก็ การเตรียมพร้อมด้วยการ

ใส่รองเท้าที่มิดชิด

ถือเป็น Do ที่ควรทำมากๆ

เพราะการที่เราใส่รองเท้าเปิดส้นหรือเดินเท้าเปล่าเดินบริเวณน้ำขัง อาจทำให้สิ่งสกปรกที่ลอยมากับน้ำบาดผิวและเข้าไปในแผลของเราได้

เพราะฉะนั้น

การใส่รองเท้าหุ้มส้นและกันน้ำถือเป็นวิธีป้องกันเท้าด่านแรกที่สำคัญมากเลย

2. Soak ( การแช่เท้าในน้ำอุ่นหลังย่ำน้ำ )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/bb/f4/de/bbf4de35ee4cee5967b1edabb2f9bc73.jpg

การแช่เท้า

ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการทำความสะอาดเท้าได้อย่างหมดจดที่สุดเลย

เพราะเวลาแช่เท้าเราจะสามารถมองเห็นเท้าเราได้ชัดเจน รวมถึงเศษสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ลอยขึ้นมาตอนล้างเท้าด้วย

ซึ่งสำหรับใครที่รู้สึกอ่อนล้าจากกมาเดินหล่ะก็

การแช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 10 - 15 นาทีและใส่เกลือเพิ่ม จะช่วยชะล้างความเหนื่อยล้าของเราได้และทำให้ผิวของเราสะอาดนุ่มลื่นขึ้นด้วย

3. Cut Your Nails ( อย่าลืมตัดเล็บเท้า )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/e2/5d/5b/e25d5b926c501e031edf482373d85399.jpg

การตัดเล็บเท้าให้สั้น

และสะอาดเสมอจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการ

ลดการสะสมของสิ่งสกปรกได้ เพราะเวลาที่เราย่ำฝนหรือเดินในที่น้ำท่วมขังมา เล็บเท้าที่ยาวของเราจะสามารถเก็บสะสมสิ่งสกปรกที่ลอยมากับน้ำได้ดี

ยิ่งถ้าเราต้องเดินลุยน้ำตั้งแต่เช้าแล้วเก็บไว้จนเย็นก็คงสยองน่าดูเลย

เพราะฉะนั้นการตัดเล็บให้สั้นไว้ก่อนจะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกได้เริ่ดที่สุดนั่นเองค่ะซิส

4. Use A Foot Scrub ( สครับเท้าอย่างอ่อนโยน )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/96/a8/33/96a8331c28aa27723cba6d63167ebfd9.jpg

ถ้าเพื่อนรู้สึกว่าอยากจะทำความสะอาดเท้าให้มากขึ้น

การสครับเท้า

ก็เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่ดีที่ไม่ได้รุนแรงกับเท้าจนเกินไป

สำหรับใครที่มีผิวบาง การเลี่ยงใช้แปรงขัดผิวและหันมาใช้สครับทำความสะอาดเท้าแทน จะช่วยทำให้ผิวเท้าสะอาดนุ่มเนียนอย่างอ่อนโยนมากขึ้น

ซึ่งหนึ่งในส่วนประกอบที่แนะนำที่สุดสำหรับการสครับเท้าเลยก็คือ

menthol-based เพราะเวลาขัดจะให้ความรู้สึกเย็นสะอาดสดชื่นนั่นเองง

5. Maceration ( เช็ดเท้าให้แห้งเสมอ )

รูปภาพ:https://zestpodiatry.co.uk/wp-content/uploads/2019/12/trenchfoot.jpg

บางทีการที่เพื่อนๆ ปล่อยให้เท้าชื้นแฉะหรือแช่น้ำเป็นเวลานานนั้นอาจจะทำให้เกิด

การลอกผิวจนผิวหนังของเราเปลี่ยนเป็นสีขาวและเหี่ยวย่นได้

จากการที่

ผิวหนังภายนอกดูดซับน้ำมากเกินไปจนเปียกนุ่ม ซึ่งเราจะสังเกตได้คือเวลาจับหรือแตะโดนแล้วรู้สึกเจ็บ

ซึ่งการที่เราปล่อยให้ตัวเองใส่รองเท้าในที่ชื้นแฉะตลอดทั้งวันแบบนี้จะทำให้เท้าเราเสียและเกิดการระคายเคืองได้

เพราะฉะนั้นเราควรจะเช็ดเท้าให้แห้งเสมอเวลาน้ำเข้าไปในรองเท้าและไม่ปล่อยให้เท้าเปียกชุ่มจะดีที่สุดค่ะ

6. Cracking of the skin ( ทาครีมหรืออยล์บำรุงผิวเท้าที่แตก )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/66/8d/f4/668df4a941f1e6e726a542f7accb2b78.jpg

ปัญหาเท้าแตก

ก็ถือเป็นอีก

ตัวกวนใจในการเก็บสะสมสิ่งสกปรกเวลาน้ำท่วมและยุ่ยลอกเวลาอยู่ในที่ชื้นแฉะเลย

ซึ่งการเราละเลยการบำรุงเท้าให้ดี นอกจากมันจะพาปัญหากวนใจมาให้เราแล้ว เราอาจจะเสียความมั่นใจเวลาต้องเดินเท้าเปล่าหรือใส่รองเท้าเปิดส้นได้ด้วย

เพราะฉะนั้นในช่วงหน้าฝนที่เราต้องเดินย่ำน้ำแบบนี้ เพื่อนๆ ควรจะทำความสะอาดเท้าให้แห้งเสมอ และอย่าลืมทาครีมหรือออยล์เพื่อบำรุงผิวบริเวณผิวที่แตกถึงจะปังที่สุด

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d3/3b/59/d33b59c0dd73115316d4020582f40faf.jpg

เป็นยังไงบ้างคะทุกคนกับ

ต้องเดินลุยฝนบ่อยทำไงดี! 6 ข้อควรรู้ Do&Don't หลังเดินย่ำฝน เพื่อสุขภาพเท้าที่ดี

เราเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ

หมั่นใส่ใจในการทำความสะอาดและบำรุงเท้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนๆ ก็จะสามารถมีเท้าที่ดีและสวยในช่วงหน้าฝนได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ มีวิธีดีๆ

ในการบำรุงเท้าอยากแชร์ต่อก็มาคอมเม้นต์คุยกันได้นะคะซิส

ไว้เรากลับมาเจอกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ บ๊ายบายย