และแล้วก็ถึงคราวที่น้ำหนักของสาวซิสต้าพุ่งสูงแตะขอบเพดาน ทนไม่ไหวแล้ว ต้องผอม!
มาตรการไดเอทอย่างเคร่งครัดก็มา พกน้ำเปล่าติดตัวไว้จิบ กินสลัดผัก ไม่แตะขนมหวาน ออกไปวิ่งที่ฟิตเนสทุกเย็นกำลังใจมาเต็มที่ หวังว่าจะได้หุ่นสวยเพรียวอย่างที่เคยเป็นในไม่ช้า
แต่ทว่า...คำพูดจากปากคนรอบข้างที่หวังดีทำให้เธอเริ่มหงุดหงิด อยากจะเหวี่ยงเต็มทีว่า อย่ามายุ่งได้ไหม!
" อันนี้กินได้เหรอ " , " กินนิดเดียวไม่อ้วนหรอกน่า" , " อย่าลดเยอะนะ เดี๋ยวผอมซูบล่ะแย่เลย " "อย่าเรื่องมากได้ไหม มีอะไรให้กินก็กินเข้าไป"( อ้าวเฮ้ย!)
พูดซ้ำๆ ซากๆ ตลอดเวลาจนเธออยากจะปิดหูสองข้างแล้วทะยานออกนอกโลกทุกครั้งที่ได้ยิน!
พวกเขาจะรู้ไหมว่ามันทั้งบั่นทอนกำลังใจ และไม่ส่งผลดีใดๆ กับการลดน้ำหนักเลยแม้แต่น้อย บางทีทำให้เหล่าหมูน้อยสติแตก ไม่ลดแล้วเว้ย! สรุปแพลนไดเอทล่มจ้า
วันนี้เรามีบทความรวมคำพูดที่คนลดน้ำหนัก
" ไม่อยากได้ยิน "
มาให้อ่าน รับรองตรงใจอย่างแรง! ไปดูกันเลย
1. " เธอจะกินของแบบนี้จริงๆ เหรอ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก "
บางทีเพื่อนสนิทของเธอก็หวังดีมากไปหน่อย! เธอจะหยิบอะไรใส่ปากก็คอยจุปากจุ๊ๆ แล้วบอกว่า“ กินได้เหรอ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก ”จะให้กินแต่น้ำกับผักไหมถึงจะพอใจอยากถามว่าเธอสถาปนาตัวเองเป็น “ สายตรวจอาหาร ” ตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ!คนพวกนี้คิดว่าถ้าเธอจะลดน้ำหนัก ก็ต้องห้ามกินนู้นสิ ห้ามกินนี้สิ ก็ตำราไดเอทบอกมาอย่างนั้นนี่นาทั้งที่ไม่รู้ว่าเธอถูกกับอาหารอะไร และจะลดน้ำหนักด้วยวิธีใดและที่สำคัญ จะกินหรือไม่กินอะไร มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดี!
การทำตัวเป็นฉลากแสดงพลังงานเคลื่อนที่ บอกว่าอันนี้พลังงานสูง ไขมันสูง น้ำตาลสูงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำอย่าตัดสินคนอื่นด้วยประสบการณ์ตัวเอง คนที่ไดเอทสำเร็จไม่ได้ดื่มแต่น้ำเปล่านะเฮ้ย ตายก่อนพอดี!
2. " ลดน้ำหนักน่ะง่ายจะตาย ใครๆ ก็ทำได้ "
คำพูดที่โหดร้ายและบั่นทอนปัญญามากที่สุดที่คนลดน้ำหนักสะเทือนใจคือ “ ลดน้ำหนักง่ายจะตาย ”โดยเฉพาะถ้าคนพูดผอมเป็นไม้กระดานและทั้งชีวิตนี้ไม่เคยอ้วน!ร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนบางคนมีระบบเผาผลาญสูง ลดแค่ 5 – 10 กิโลกรัมเป็นเรื่องหวานหมูสำหรับพวกเขาแต่บางคนอดอาหารแทบตาย ลงแค่สองขีด!
คนทุกคนต่างก็ดื้นรนอยากผอม มีหุ่นดีสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการกินอาหารคลีนอย่างเคร่งครัด ออกกำลังกายทุกวันอย่างมีวินัยในตัวเองบางคนถึงกับเปลี่ยน“ พฤติกรรมการกิน ”ของตัวเองตลอดชีวิตเพื่อคงน้ำหนักให้ไม่กลับมาอ้วนอีก รู้ไหมว่ามันเหนื่อย!อยากไปกระซิบกับพวกผู้หวังดีทั้งหลาย ทั้งเพื่อน คนในครอบครัว ป้าแม่บ้านหรือวินมอเตอร์ไซค์ปากซอยให้รู้ว่า อย่าคิดว่ามันง่ายอย่างนั้น มาสลับร่างกับพวกฉันไหมล่ะ จะได้รู้ว่าจะลงแต่ละขีด กระอักเลือดขนาดไหน
3. " น้ำหนักลงสักขีดหรือยัง "
คนที่พูดแบบนี้ แปลได้ง่ายๆ อย่างเดียวว่า“ เหมือนน้ำหนักจะไม่ลดลงเลยนะ ”อ้าว ดูถูกกันนี่หว่า!คนลดน้ำหนักก็กดดันและเครียดกับน้ำหนักแต่ละขีดอยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการเครื่องตรวจจับน้ำหนักพูดได้ !หรือบางครั้งเธอก็พึงพอใจกับน้ำหนักที่ลดลงแล้ว แม้ตัวเลขจะไม่ดูอลังการเหมือนแชมป์ลดน้ำหนักในรายการทีวี แต่คนพวกนี้ก็ทำให้เธอเสียความมั่นใจด้วยการถามคำถามแปลกๆ และทำสีหน้าเหมือนเวทนาเธอเสียเต็มประดาไม่ใช่รายการวงเวียนชีวิต ไม่ต้องมาสงสาร =_=
คิดจะเป็นเพื่อนที่ดี ขอร้องล่ะ ให้กำลังใจเถอะ รูปร่างเธออาจจะเปลี่ยนแต่พวกเขาไม่คิดจะสังเกตเองมากกว่า!
4. " อยากผอมก็งดแป้ง งดหวานสิ เดี๋ยวน้ำหนักก็ลดแล้ว "
การลดน้ำหนักไม่มีคำว่า “ แค่ ” หรอก แค่คือง่าย และถ้าง่ายก็คงไม่มีใครในโลกนี้อ้วน!การงดแป้ง งดน้ำตาล หรืองดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งไปเลยไม่ใช่เรื่องควรทำ นอกจากหงุดหงิดแล้วยังเสียสุขภาพด้วยการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีจะทำแบบเร่งด่วนไม่ได้เด็ดขาด เปรียบเสมือนการวิ่งไปถึงเส้นชัยนั่นแหละ ต้องวิ่งด้วยกำลังขาตัวเองไปจนถึงจุดมุ่งหมาย
ถ้าเธอโกงด้วยการขับรถไปถึงเส้นชัย ก็ใช่ ถึงเหมือนกัน แต่ไขมันหายไปจากตัวไหมล่ะ ก็ไม่!เมื่อเธอกลับมากินเหมือนเดิม น้ำหนักจะเด้งกลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็ว เผลอๆ อ้วนกว่าเดิมอีกจ้าจงตอบกลับคำพูดนี้ไปว่า มันเสียสุขภาพ ขอลดแบบช้าแต่ชัวร์ดีกว่าค่ะ!
5. " ก็เคยไดเอทแบบนี้ไปรอบนึงแล้วนี่ "
การพูดแบบนี้ มันหมายความว่าตัวเธอ“ ล้มเหลว ”ชัดๆ! เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกรัวๆ แล้วเอาไปตบในน้ำจนกว่าหน้าจะแห้งเลยทีเดียว (／`o´)／บางครั้งการลดน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทดลองหลายแบบหลากวิธี ทำแล้วกลับมาอ้วนใหม่เพราะตามใจปากก็ต้องกลับมาทำแบบเดิม ไม่เห็นผิดตรงไหน!บางครั้งเธอก็ต้องหาวิธีไดเอทที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และบุคลิกของเธอมากที่สุด ไม่อย่างนั้นก็ยากที่จะผอมเช่น ถ้าเธอเกลียดการวิ่ง แต่ชอบการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ เธอก็ควรจะเต้นเพื่อลดน้ำหนักมากกว่าออกไปวิ่งตะลอนๆ ข้างนอก จริงไหมล่ะ
ดังนั้นถ้าใครถามด้วยประโยคนี้ จงทำหน้าเชิด ตัวตรง ไม่ต้องสนใจ คิดไว้ว่าถ้าผอมอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!
6. " อย่าลดมากไปนะ เดี๋ยวผอมเป็นโครงกระดูก "
สาวๆ บางคนก็ตั้งใจลดน้ำหนักมากเกินไปจนผอมซูบซีดจริงๆ แต่ถ้าเพิ่งเริ่มลดแล้วมาพูดแบบนี้ บางทีก็ทำให้ขี้เกียจลดซะงั้น!ถ้าจะเตือน ให้บอกตอนที่ผอมในเวลาที่รวดเร็วจนน่าตกใจ คล้ายจะเป็นอะนอเร็กเซียดีกว่า!คนพูดอาจไม่รู้ว่าเธอกำลังลดน้ำหนักแบบไหนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ทำตามแบบแผน สุขภาพดี ออกกำลังกายตามสมควรจะไม่มีทางผอมซีดได้อยู่แล้ว( เพราะกล้ามเนื้อจะขึ้นแทน )
ส่วนใหญ่คนพูดประโยคนี้ มักจะเป็นพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองของสาวๆ เพราะกลัวว่าลูกสุดที่รักจะผอมหัวลีบ อดอาหารจนสติเบลอไปซะก่อนแก้ไขได้ด้วยการอธิบายแผนไดเอทของเธออย่างละเอียด เพื่อให้พวกท่านยอมปรับทัศนคติใหม่และเอาใจช่วยให้เธอทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ
7. " ฉันทำของหวานมาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย "
แผนการสกัดดาวรุ่งมาแล้ว!ยิ่งช่วงเทศกาลแข่งลดน้ำหนัก ฝ่ายตรงข้ามจะเริ่ม “ วิชามาร ” ด้วยการทำขนมหวาน ราดครีมซะมันเยิ้มมาวางล่อ แล้วบอกว่า“ นี่ทำเค้กของโปรดมาให้เธอคนเดียวเลยนะ กินให้หมดสิ เดี๋ยวเสียกำลังใจ ”คนก็ยิ่งหิวๆ อยู่ เจอขนมวางอยู่ตรงหน้า จะไม่ให้เผลอใจฟาดทั้งชิ้นได้อย่างไรไหว!หรือบางคนก็เป็นคุณปู่คุณย่าไปเที่ยวแล้วเอาขนมมาฝาก ไม่รู้ว่าหลานรักไดเอทอยู่ สรุปอ้วนขึ้นกว่าเดิมอีก
สิ่งที่ต้องมีเป็นอย่างยิ่งคือ “ กำลังใจ ” และ “ ความอดทน ” อย่ามอง อย่าไปสนใจ คิดไว้ตลอดเวลาว่า เอาออกยากกว่าเอาเข้าหลายร้อยหลายพันเท่าอย่าทำให้อารมณ์หิวชั่ววูบทำให้แผนไดเอทพัง!
8. " ไม่ต้องลดหรอก เธอก็อ้วนสวยๆ ในแบบของเธอก็ได้นี่ "
ที่จริงคำชมว่าสวยก็อยากรับไว้อยู่หรอกนะ แต่เมื่อพูดแบบนี้ก็ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักที ความรู้สึกฝ่ายผอมกับฝ่ายขี้เกียจต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงเลยเชียวในโลกความจริงนั้น วัยรุ่นอย่างเธอควรมีหุ่นที่ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตากินจนอ้วนเป็นหมู แล้วหลอกตัวเองไปวันๆ ว่าตัวเองสวยหากแค่อวบก็ยังพอทน แต่ถ้าอ้วนเป็นหลักร้อยกิโล ระวังโรคจะมาเยือนรัวๆ
อย่ามัวแต่เคลิ้มกับคำชมอาบยาพิษ สวยอยู่ในโลกส่วนตัวคนเดียวไม่ได้บังคับให้ผอมเป็นหุ่นนางแบบ แต่อ้วนจนลุกนั่งลำบาก เป็นภาระคนอื่นก็คงเริ่มไม่สวยแล้วล่ะ!
9. " กินนิดหน่อยไม่อ้วนหรอกน่ะ อย่าเรื่องมากนักเลย "
สาวๆ ที่อ่านมาถึงข้อนี้น่าจะตบเข่าฉาดด้วยความถูกใจ เพราะน่าจะเจอกันหมดทุกคน!ทั้งคนอื่นกล่อมและหลอกตัวเอง คำพูดประเภทที่ว่า“ คำเดียวเอง ”หรือ“ ชิ้นเล็กแค่นี้ไม่อ้วนหรอก ”อันที่จริงกินบ้างนิดหน่อย อาทิตย์ละครั้งสองครั้งไม่ส่งผลต่อแผนไดเอทของเธอหรอก แต่ส่วนใหญ่กินชิ้นแรกแล้วมักจะหลุดยาวน่ะสิกินต่อเนื่องจนพุงขยายรัวๆ เรียบร้อย พอขนมหมดเกลี้ยงก็รู้สึกผิด จะไปล้วงคอออกก็ไม่ได้!
เธออาจไม่รู้ว่า น้ำตาลทำให้เราอยากอาหาร ยิ่งเธอกินแค่คำสองคำ ยิ่งทำให้เธออยากกินในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ สู้ไม่กินซะเลยยังจะดีกว่าเข้มแข็งและอดทนเข้าไว้ คิดถึงรูปร่างผอมสวยแล้วบอกคนพูดว่า “ ไม่ดีกว่าค่ะ ”
10. " ก็กินให้มันน้อยๆ หน่อยสิ "
อ้าว ก็ถูกแล้วนี่!สาวซิสต้าอาจเห็นด้วยกับคำพูดนี้ จะลดความอ้วนก็ต้องกินน้อยลงสิแต่ที่จริงถูกแค่ครึ่งเดียว เธอต้องกิน“ อาหารขยะและขนมหวาน ”น้อยลงต่างหาก ไม่ใช่อาหารโดยรวมทั้งวัน!หลายคนเข้าใจผิด ตั้งหน้าตั้งตาอดข้าวจนเดินเซไปเซมา เสียสุขภาพกาย สุขภาพจิต ในที่สุดก็ตบะแตก กินแหลกกลับมาอ้วนเท่าเดิม แล้วก็วนลูปเดิมอีกไม่จบไม่สิ้น!
การลดน้ำหนักที่ดีต้องใช้เวลาและความอดทน กินอาหารครบห้าหมู่และออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจไม่เห็นผลในทันทีแต่ทำให้สุขภาพแข็งแรงในระยะยาวการอดอาหารอาจผอมได้จริงในช่วงสั้นๆ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน จงอย่าเชื่อคำคนเหล่านี้และไปในทางที่ถูกต้องนะคะ คุณแม่ขอร้อง!
======================================
โดนใจคนอยากผอมกันบ้างไหม แต่ละคำพูดนี่ บั่นทอนจิตใจกันทั้งนั้น ! ( ปาดน้ำตาแป๊บ )คนลดน้ำหนักมักจะมีภาวะอ่อนแอ เพราะต้องลดอาหารที่อยากกินอยู่แล้ว ยิ่งเจอคำพูดประเภทนี้ยิ่งท้อถอยเข้าไปใหญ่หลายคนถึงกับดูถูกว่าไม่มีทางผอมได้ ห้ามอาหารมันทุกอย่าง กินได้แต่น้ำกับผักก็มีเพราะคนมีหลายประเภท บางคนก็ขาดความรู้ด้านโภชนาการ แต่บางคนก็แค่พูดเอาสนุก อยากแกล้งอยากล้อเท่านั้นเอง ( ฮึ่ย! มันแค้น )
ทางแก้ก็ไม่ยาก แค่ยิ้มหวานๆ ให้แล้วบอกว่าเราไดเอทอย่างถูกวิธี ตามหลักโภชนาการ ไม่ต้องห่วงแล้วไดเอทตามแผนต่อไปอดทนและเข้มแข็งจนกว่าจะถึงจุดมุ่งหมาย เมื่อเธอผอมแล้ว คำพูดร้ายๆ ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้อีกสู้ๆ ค่ะสาวๆ พวกเราชาวซิสต้าเป็นกำลังใจให้ ฮุยเลฮุย!!!
ヾ(o´∀｀o)ﾉ
======================================
