โรคอัลไซเมอร์หรืออาการสมองเสื่อมเป็นโรคใกล้ตัวที่หลายๆ คนยังมองข้าม เนื่องจากอาจจะไม่ได้เจอจำนวนมากเท่ากับไข้หวัด แต่ผลอันตรายของมันนั้นร้ายแรงมาก ส่งผลต่อทั้งผู้ป่วยเองหรือคนรอบข้างของผู้ป่วยด้วยค่ะเราเคยมีญาติที่ประสบปัญหานี้และความทรงจำเกี่ยวกับมันเลวร้ายมากดังนั้นเราจึงอยากมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพให้สมองจะได้ไม่ต้องประสบปัญหานี้ค่ะ
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคความเสื่อมที่รักษาไม่หายแต่เราสามารถป้องกันได้ โดยการไม่ทำพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพสมอง ส่วนการดูแลรักษาการบำบัดผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะบทบาทของผู้ดูแลซึ่งมักจะเป็นคู่สมรสหรือญาติใกล้ชิด เป็นที่รับรู้ว่าโรคอัลไซเมอร์นั้นสร้างภาระให้แก่ผู้ดูแลอย่างมาก ทั้งในทางกายสังคม ทางจิต ทางสังคม
ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันออกไป
แต่ก็มีอาการที่พบร่วมกันหลายประการ
-อาการแรกสุดที่พบคือ
-อาการที่พบในระยะแรกคือ
มื่อโรคดำเนินไประยะหนึ่งผู้ป่วยจะมีอาการ
หงุดหงิดง่ายและก้าวร้าว อารมณ์แปรปรวน เสียความสามารถทางภาษา
-สูญเสีย
และเพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆ เนื่องจากผู้ป่วยเสียการรับความรู้สึก และต่อมาจะสูญเสียการทำงานต่างๆ ของร่างกาย และเสียชีวิตในที่สุด
ในผู้ป่วยแต่ละรายนั้นทำได้ยากเนื่องจากระยะเวลาของโรคมีความหลากหลาย การดำเนินโรคของโรคนี้จะมีช่วงระยะเวลาที่ไม่แสดงอาการแน่ชัดก่อนจะปรากฏอาการชัดเจน
หลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์โดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 7 ปีมีผู้ป่วยน้อยกว่าร้อยละ 3 ที่มีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 14 ปีหลังได้รับการวินิจฉัย
ในปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์
หรืออาการสมองเสื่อมเป็นโรคใกล้ตัว จำนวนผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในประเทศไทยปี 2558 ว่ามีจำนวนมากถึง 6 แสนราย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับล้านคนในปี 2573 ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลย หากมีวิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงได้เราก็จะหลีกเลี่ยงค่ะ วันนี้บทความเราจึงเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพสมองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้กัน
ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1.หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ
ไม่จำเป็นต้อง Take course ให้ ซีเรียสค่ะ เพียงแค่คุณลองทำสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างไปจากเดิม อาจจะเป็นการ ลองเล่นเกมดูบ้างหากชีวิตประจำวันนั้นหมกมุ่นกับงานมากเกินไป หรืออาจจะเป็นการลองออกกำลังกายบ้างนิดๆ หน่อยๆ หากชีวิตประจำวันวุ่นวายจนไม่มีเวลา แม้กระทั่งการออกเดินทาง ออกไปเดินตลาดหน้าหมู่บ้าน ออกไปซื้อของในที่ใหม่ๆ บ้างก็เรียกได้ว่าเป็นการ
เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ค่ะข้อดีนั้นนอกจากจะป้องกันสมองเสื่อมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาสมองอีกด้วย
2. รับประทานอาหารบำรุงสมอง
เริ่มการดูแลจากภายในด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพโดยเฉพาะอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 เอ ซี อี และซีลีเนียม รวมถึงผลิตภัณฑ์จากใบแปะก๊วยซึ่งจะช่วยดูแลและส่งเสริมประสิทธิภาพของสมองให้ดียิ่งขึ้น
3. เข้าสังคม พบปะผู้คน พูดคุย
การที่ได้โต้ตอบบทสนทนาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว จะสามารถช่วยยืดอายุสมองได้ค่ะ เนื่องจากสมองจะมีการกระตุ้นและสร้างสรรค์ในระหว่างการพูดคุยสนุกสนานและการได้ถกเถียงเรื่องราวต่างๆ
4. หมั่นตรวจสอบเช็คสุขภาพและความดันโลหิตอยู่เสมอ
นอกจากจะเป็นการเช็คสุขภาพไปในตัวเพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือหากมีอะไรที่ผิดปกติแล้ว การตรวจความดันโลหิตก็มีส่วนสำคัญกับการดูแลสุขภาพสมอง เพราะส่งผลกระทบถึงสมองโดยตรง ดังนั้นหากมีความดันโลหิตสูงแล้วละก็แนะนำให้ลด ละ เลิกกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลต่อความดันโลหิตได้ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการใช้สารเสพติด
5. ออกกำลังกาย
มีประโยชน์เรื่องการคลายเครียดและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โดยการออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ เพียงวันละ 20-30 นาที อย่างน้อย 4 วัน/สัปดาห์ ยังช่วยบำรุงหัวใจเรียกได้ว่าออกกำลังกายแล้ว ดีต่อทั้งสมองแถมหัวใจยังแข็งแรงอีกด้วย สุดยอดไปเลยค่ะ
6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อที่ร่างากยจะได้ซ่อมแซม ฟื้นฟู และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ด้วยจิตแจ่มใสยิ่งขึ้น
และนี่ก็เป็นอีกบทความดีๆที่เราได้รวบรวมมาฝากวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับซิสต้าแฟนคลับนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ด้วยรักและสุขภาพดีกันถ้วนหน้าค่ะ