สาวซิสต้าจงอย่าไว้ใจอาหารที่อ้างว่าตัวเองเป็น "อาหารเพื่อสุขภาพ" ราคาแพงที่วางขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไปนะคะ!อาหารพวกนี้มีสารอาหารที่มีประโยชน์และถ้ากินในปริมาณ "ตามสมควร" ก็ทำให้ผอมลงได้จริงๆ แต่ส่วนใหญ่สาวๆ มักห้ามปากตัวเองไม่ได้กินเพลิน รู้ตัวอีกทีก็น้ำหนักขึ้นจนสงสารตาชั่งกันเลยทีเดียว (=TェT=)ก็ไม่รู้นี่ว่าควรกินเท่าไหน

ชาวซิสต้าสบายใจได้แล้ว เพราะวันนี้เรามีบทความ"รวมอาหารเพื่อสุขภาพที่ควรระวัง ถ้ากินเยอะก็อ้วน ภาค2"ต่อจากบทความที่แล้วมาให้อ่านกันเราจะมากระซิบบอกว่าอาหารที่เธอกินในแต่ละวันทำให้อ้วนเพราะอะไร คราวนี้จะได้รู้ว่า"ทำไมฉันไม่ผอมสักที"ไปดูกันเล้ย! (>。<;)y-~


1. ชาเย็น (Iced tea)

รูปภาพ:https://bradkovach.com/a/wp-content/uploads/2013/01/icedTea.jpg

ชามีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ และยังมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อการมีอาการคลุ้มคลั่งเพราะสมองผิดปกติอีกด้วยแต่การกิน“ชาเย็นใส่น้ำตาล”ทำให้สุขภาพของเธอเสื่อมโทรมลงเสียมากกว่า เพราะชาประเภทนี้มีน้ำตาลที่เรียกได้ว่า“โอเวอร์โหลด”เพราะใส่จนแทบจะล้นออกมานอกแก้วชาหนึ่งขวดอาจใส่น้ำตาลในปริมาณที่ควรดื่มมากกว่าปกติ 2 เท่าหรือมากกว่าเลยแหละ!

ถ้าเป็นไปได้ เธอชงชาเย็นเองจะดีที่สุดเพราะคุมแคลอรี่ได้ถ้าเธอติดหวานก็ใส่สารให้ความหวาน (Sweetener) ไปแทน(แต่อย่าใส่เยอะ เพราะน้ำตาลเทียมก็เป็นสารเคมีสังเคราะห์ค่ะ)ดื่มชาแบบไม่หวานน่ะเริ่ดสุดแล้ว!


2. เบอร์เกอร์มังสวิรัติ (Veggie burgers)

รูปภาพ:http://www.chowstatic.com/assets/recipe_photos/11-10-14/10988_veggie_burger.jpg

เบอร์เกอร์มังสวิรัติเป็นอาหารประเภทไม่ใส่เนื้อสัตว์ แต่ใส่ไส้เป็นข้าวโพด ถั่ว หรือเต้าหู้แทน ดังนั้นจึงมีไขมันและคอเลสเตอรอลน้อยกว่าเบอร์เกอร์ใส่เนื้อสัตว์ในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั่วไปแต่มันจะกลับมา “อ้วน” เหมือนเบอร์เกอร์ทั่วไปทันทีถ้าเธอเริ่มระดมใส่ชีสหลายๆ แผ่น, ซอสมะเขือเทศเยิ้มจนท่วม, มายองเนสครีมล้น และขนมปังประกบอันใหญ่เบิ้มเอ่อ เธอจะลดหรือจะเพิ่มน้ำหนักกันแน่จ๊ะเพื่อนสาว!

วิธีแก้ปัญหาคือ ใส่เครื่องโรยหน้าอย่างซอสต่างๆ ให้น้อยลงน้อย ถ้าจะใส่ก็ใช้ซอสที่แคลอรี่ต่ำอย่างซีอิ๊วญี่ปุ่นก็จะดีมากเลย


3. เต้าหู้ญี่ปุ่น (Tofu)

รูปภาพ:http://www.vegkitchen.com/wp-content/uploads/2009/12/Tofu-in-bowl.jpg

เต้าหู้ญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ชาวญี่ปุ่นต่างยกให้เป็นอาหาร “เพิ่มพลัง” และเป็นอาหาร “เพื่อสุขภาพ” โดยแท้จริง  เพราะเป็นแหล่งรวมของธาตุเหล็ก แคลเซียม โปรตีนเต้าหู้ครึ่งถ้วยให้พลังงานเพียง 94 แคลอรี่แต่ปัญหาคือสาวซิสต้าบางคนกินเต้าหู้แบบจืด ๆ ไม่ได้ ต้องขอให้ได้ผัด ได้ทอดสักหน่อยก็ยังดี! ความอ้วนเริ่มโบกมือทักทายจากตรงนั้นแหละจ้าน้ำมันที่อมเต้าหู้อยู่ เมื่อเคี้ยวแล้วน้ำมันก็แตกตัวแป๊ะๆ ในปาก อูย แค่คิดก็สยองแล้วนะเธอ!

วิธีแก้คือถ้าเธอไม่สามารถทนรสชาติเต้าหู้ปกติได้จริงๆ (มันอึ๋ยๆ นี่นา!)ใช้น้ำมันสำหรับทอดเพียง 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น ห้ามเกิน! (แต่ขาดได้นะจ๊ะ)


4. สลัดผัก

รูปภาพ:https://cdn.viebelles.com/media/catalog/product/s/a/salad.jpg

เธอคิดว่าเมนูนี้ “เฮลต์ตี้” สุดๆ แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่กินสลัดผักแล้วจะกินอะไรล่ะ อย่าตลกไปหน่อยเลยน่า! เราไม่เถียงว่าผักสดดีต่อสุขภาพและทำให้ผอมได้จริงแต่เมื่อเธอเริ่มใส่ชีสขูด ขนมปังกรอบ ถั่วต่างๆ ซอสครีมมันเยิ้มเทลงไปพรวดๆ ในสลัดชามโต ไขมันหน้าท้องของเธอก็จะโตตามด้วยเหมือนกันเพราะมันไม่ต่างกับการกินพิซซ่าตอนดึกเลยนะจ๊ะ!

วิธีแก้คือ ลดเครื่องปรุงอ้วนๆ พลังงานสูงให้น้อยลง เหยาะซอสให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้จำไว้ว่า แม้แต่ใส่น้ำส้มสายชูเปรี้ยวๆ ก็มีแคลอรี่สูงค่ะ



5. ธัญพืชแท่ง (Energy bar)

รูปภาพ:http://cdn-jpg.theactivetimes.net/sites/default/files/imagecache/activetimes_story_promo_photo_646/diy_energy_bars_shutterstock_p.jpg

ธัญพืชอัดแท่ง (Energy bars) เป็นอาหารสำหรับนักเดินทางหรือนักกีฬาที่ต้องการพลังงานมีประโยชน์และดูดซึมเร็ว ดังนั้นในแท่งเดียวจึงเต็มไปด้วยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตมีดัชนีน้ำตาลสูงปรี๊ด! นึกภาพว่าเธอกำลังนั่งเรียนอยู่ มีแท่งธัญพืชอยู่พอดีเคี้ยวแป๊บเดียวหมดแท่ง เธอจะรู้สึกถึงน้ำตาลที่ไหลเวียนในกระแสเลือดทันทีแท่งเดียวไม่พอหรอก เธอจะกินไปเรื่อยๆ  และแล้วความอ้วนก็เซย์ไฮ!

จำไว้ให้มั่นธัญพืชแท่งไม่ใช้ขนมที่เหมาะสำหรับการกินทุกวัน(ยกเว้นว่าเธอออกกำลังกายหนักทุกวันน่ะนะ)ถ้าเธอไม่ออกกำลังจนเหนื่อยหอบเกินหนึ่งชั่วโมง มันก็คือไขมันเพิ่มความอ้วนดีๆ นี่เอง!ถ้าเธอต้องไปปีนเขา ปั่นจักรยานวิบาก หยิบมาเคี้ยวกินเพลินๆ ก็โอเค แต่ถ้าเธอเป็นนักเรียนธรรมดา อยู่ให้ห่างแท่งธัญพืชนี้ไว้ดีกว่า


6. ซีเรียล

รูปภาพ:http://i2.cdn.turner.com/cnnnext/dam/assets/130402081404-cereal-milk-pouring-breakfast-story-top.jpg

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยซีเรียลชามโต เราจะได้โฮลเกรน หรือธัญพืชเต็มเมล็ด ไฟเบอร์ และโปรตีนอย่างเต็มที่แต่ข้อเสียของซีเรียลคือ มันแอบแฝงไปด้วยน้ำตาลและโซเดียมที่สูงปรี๊ดเลยล่ะค่ะ!ถ้ากินเยอะก็เตรียมเป็นเพื่อนซี้กับความอ้วนได้เลย

อ่านฉลากข้างกล่องให้เข้าใจซีเรียลที่เธอกินควรมีไฟเบอร์อย่างน้อย 3 กรัม และมีน้ำตาลไม่เกิน 10 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค!ที่สำคัญฮลเกรนควรเป็นส่วนผสมที่เยอะที่สุดในซีเรียลเสมอถ้าพลิกไปเจอยี่ห้อที่มีโฮลเกรนกับน้ำตาลครึ่งต่อครี่งนี่อย่าซื้อเชียวนะ (´д`、)


7. ขนมปังโฮลวีต

รูปภาพ:http://thefoodventure.com/wp-content/uploads/2014/05/Whole-grain-bread.jpg

ขนมปังโฮลวีตเหมือนจะเป็นอาหารของสาวรักสุขภาพ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปหรอกนอกจากขนมปังโฮลวีทจะไม่ได้ทำจากโฮลวีททั้งหมดแล้ว มันมีกระบวนการผลิตเหมือนขนมปังขาวทุกอย่างโฮลวีทแบบนี้จะกลายเป็นแป้งขาวที่ย่อยง่ายสุดๆ ขัดขวางน้ำตาลในเลือดได้เร็วพอๆ กับขนมปังขาวเลยล่ะ

หากจะซื้อขนมปังจริงๆ ล่ะก็ ขอให้เลือกเป็นแบบ 100% เท่านั้นสาวรักสุขภาพต้องช่างเลือกนะจ๊ะ!



8. ผลไม้แช่แข็ง (Frozen fruit)

รูปภาพ:http://crossfittameside.com/wp-content/uploads/2011/02/Frozen-Summer-Fruit.jpg

ผลไม้แช่แข็ง! เหมือนจะดีใช่ไหมล่ะ ดูยังสดใหม่ แถมเย็นสดชื่นเหมาะกับอากาศบ้านเราอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ผลไม้แช่แข็ง “อย่างเดียว” น่ะสิ หลายยี่ห้อเติมน้ำตาลลงไปจนหวานเจี๊ยบในที่สุดก็ไม่ต่างกับขนมหวานที่ทำให้พุงปลิ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ถ้าไม่อยากตัวบวมเพราะน้ำตาล ตรวจดูส่วนผสมให้ถี่ถ้วนชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ผลไม้แช่แข็ง” ดังนั้นฉลากหน้าถุงก็ควรมีส่วนประกอบเดียวคือ “ผลไม้” ค่ะ


9. ชีส

รูปภาพ:http://www.thekitchenskinny.com/wp-content/uploads/2013/07/cheese_000008808279Large.jpg

ชีสเป็นอาหารที่สกัดจากนม จึงอุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียม แต่เพราะสกัดไขมันออกมา ชีสจึงมีไขมันและแคลอรี่สูงด้วยเช่นกัน!เชดดาร์ชีส 1 ออนซ์ให้พลังงาน 113 แคลอรี่ และมีไขมัน 9 กรัม (เป็นไขมันอิ่มตัวไปแล้ว 6 กรัม)

เธอไม่จำเป็นต้องเลิกกินชีสไปเลย แต่ต้องจำกัดปริมาณสักหน่อยไม่ต้องเลือกซื้อชีสแบบไขมันต่ำหรอก เพราะแบบปกติอิ่มและอร่อยมากกว่าเยอะเป็นไปได้ให้เลือก Feta cheese (ชีสนมแพะ)เพราะชีสชนิดนี้มีกรดไขมันที่ทำให้รู้สึกอิ่มและเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นอีกด้วย


10. ซอสมะเขือเทศ

รูปภาพ:http://www.seriouseats.com/images/20110425-ketchup.jpg

ซอสมะเขือเทศไม่มีไขมัน แคลอรี่ต่ำ ส่วนผสมของซอสอย่างมะเขือเทศก็มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา วิตามินดีบำรุงกระดูกแต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีไปเสียหมดหรอกนะซอสมะเขือเทศยี่ห้อทั่วไปไม่ได้มีแค่มะเขือเทศ แต่เติมเกลือและน้ำตาลลงไปรัวๆ จนกลายเป็นขนมหวานเสียแล้วน่ะสิโดยเฉพาะซอสซองเล็กๆ ที่แถมมากับไก่ทอดของโปรดนี่ตัวดีเลย!

อยากหนีความอ้วนจากซอสมะเขือเทศก็ไม่ยากคิดก่อนเหยาะซอสสิจ๊ะตัวเธอว์! หนึ่งหน่วยบริโภคที่เหมาะสมคือ 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้นนะ ( ̄(エ) ̄)


11. นมจืด (Whole milk)

รูปภาพ:http://media.jamnews.ir/Original/1392/11/23/IMG10273281.jpg

นมสดจืดมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเป็นแหล่งอุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินดี โปรตีนและแคลเซียม บำรุงกระดูกและฟันแต่นมจืดหนึ่งถ้วยก็ให้พลังงานไม่เบาเหมือนกัน! จัดไปเน้นๆ 150 แคลอรี่ และไขมันถึง 8 กรัมเลยทีเดียว!

ถ้าเธอเป็น “แฟนพันธุ์แท้” ของนมสดจริงๆ ชีวิตไม่อาจขาดนมได้ ดื่มมาตั้งแต่ยังเด็ก เปลี่ยนไปดื่มแบบพร่องมันเนยหรือขาดมันเนยแทนค่ะเธอจะกำจัดพลังงานส่วนเกินไปได้ถึง 70% เลยเชียวล่ะ!แต่ผู้เขี่ยวชาญบางคนก็เชื่อว่านมสดธรรมดาทำให้อิ่มท้องมากกว่านมไขมันต่ำก็มีพลังงานถึง 80 แคลอรี่ดังนั้นเลือกตามใจชอบ แต่จำกัดปริมาณแล้วกันนะคะ


--------------------------------อาหารเพื่อสุขภาพเหล่านี้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย หากกินในปริมาณที่เหมาะสมก็ไม่มีอันตรายอะไรแต่สาวๆ ซิสต้าอาจไม่มีความรู้ด้านโภชนาการมากพอ บวกกับตามใจปากทำให้น้ำหนักพุ่งพรวดอย่างไร้เหตุผล(ระวังตาชั่งพัง!)เมื่ออ่านบทความนี้จบแล้วลองกลับไปสำรวจรายการอาหารในชีวิตประจำวันดูสิเรากินอะไรมากเกินความจำเป็นหรือเปล่าหากพบต้นตอปัญหาก็ย่อมแก้ไขได้ง่ายค่ะ

จำไว้ให้ดี หลักการลดความอ้วนมีอยู่สองสิ่งง่ายๆ คือ"ควบคุมอาหาร"และ"ออกกำลังกา

ย"ถ้าทำได้ หุ่นสวยงามที่ใฝ่ฝันก็รออยู่ไม่ไกลแน่นอน ^_____^


บทความที่เกี่ยวข้อง