ฮัลโหล~ ทักทายค่าชาวซิส แบบว่าช่วงนี้เห็นเทรนด์ว่าคนกำลังอินเรื่องลดน้ำตาล ลดหวานกันเยอะไปหมดเลย แล้วก็มีเสียงบ่นระงมว่ามันทำยากมาก คืออยากทำแต่พอเริ่มแล้วทำไม่ได้ทุกที อาจจะเป็นเพราะเราหักดิบมากเกินไปค่ะ แบบอยากงดก็งดเลยซึ่งร่างกายและความรู้สึกเรามันก็มีต่อต้านเป็นธรรมดา งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า! เรามาส่องวิธีลดหวานไม่หักดิบกัน รับรองว่าช่วยได้แน่นอนเพราะไม่ใช่การลดแบบงด ห้ามกิน หยุดกินทันที แต่จะเป็นการค่อย ๆ ลดนั่นนิดนี่หน่อยแทน ฟังดูน่าสนใจละซี่~ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็มาดูกันเล้ยยยย


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


อยากหน้าใสต้องงดบ้าง ด้วย 7 วิธีลดหวานไม่หักดิบ แบบไม่ทรมาน


วิธีลดหวานไม่หักดิบ ที่ 1 ลดน้ำหวานให้เหลือวันละแก้ว

รูปภาพ:https://image.made-in-china.com/202f0j00QOtilYrCIEbP/Wholesale-Hand-Made-Pearl-Milk-Tea-Cup-Bottle-Girl-Earrings-Pendant.jpg

เริ่มจากข้อแรกกันเลยค่า มีใครติดกินน้ำหวานวันละ 2 แก้วขึ้นไปไหมคะ ถ้าใครที่มีพฤติกรรมนี้อยู่ขอให้รีบปรับโดยด่วนเลยน้า เพราะยิ่งเรากินน้ำหวานเยอะเท่าไหร่ปริมาณน้ำตาลก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น วิธีที่ง่ายที่สุดคือการลดการกินลงให้เหลือแค่วันละ 1 แก้วเท่านั้นค่ะ คือถ้าเราไม่กินไปเลยมันอาจจะหักดิบไปหน่อยให้เริ่มลดทีละนิดอย่างการกินน้ำหวานให้เหลือวันละ 1 แก้วก่อนนะคะ ถ้าเริ่มรู้สึกว่าอยู่ตัวเมื่อไหร่อาจจะลดการดื่มเป็นสัปดาห์ละ 5 วัน 3 วัน 1 วันไปเรื่อย ๆจนสุดท้ายไม่ดื่มเลยก็จะทำให้เราลดหวานได้ในที่สุดนั่นเองจ้า


ลดหวานแบบไม่หักดิบ ที่ 2 ลดระดับความหวานลง

รูปภาพ:https://5.imimg.com/data5/ZA/ZY/FD/SELLER-22868263/organic-brown-sugar-cube.jpg

มาต่อกันด้วยวิธีที่ 2 เลยจ้า วิธีนี้จะต่อเนื่องกับวิธีด้านบนคือนอกจากการลดจำนวนแก้วที่กินลงไปแล้ว ก็ต้องมาลดระดับความหวานกันต่อด้วย เช่นปกติกินชาไทยหวาน 100 ก็ให้ลดระดับลงเป็น 75 ก่อนก็ได้นะคะ แล้วหลังจากนั้นค่อย ๆ ปรับเป็น 25 - 50 แทนปริมาณน้ำตาลจะได้ลดลงไปด้วย รวมไปถึงของหวานและอาหารต่าง ๆ ด้วยค่ะ ใครติดกินเค้ก กินลูกอมอะไรพวกนี้ก็ต้องเลี่ยงไปกินของหวานที่น้ำตาลน้อยลงแทนนะคะ จะได้ช่วยให้เราลดระดับความหวานและปริมาณน้ำตาลลงเรื่อย ๆ ด้วย :-)


ทริคลดหวาน ที่ 3 แบ่งกินทีละนิดละหน่อย

รูปภาพ:https://goldbelly.imgix.net//uploads/showcase_media_asset/image/92972/seven-layer-caramel-cake.03dbe9e4005054595fb474d7aae661e7.jpg

ข้อที่ 3 กันแล้วค่า สำหรับข้อนี้ขอเน้นไปที่ขนมหวานเลยนะคะ ใครที่ชอบกินขนมหวาน เบเกอร์รีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเค้ก ชูครีม คุกกี้ โดนัท ฯลฯ แนะนำว่า

ให้กินที่ละนิดแทน

ค่ะ เช่น ซื้อเค้กมา 1 ชิ้น ก็ตัดแบ่งไว้สัก 2 - 3 ส่วนกินวันละส่วน ๆ ปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันก็จะลดลงแถมยังเป็นการกินที่ไม่หักดิบเกินไปด้วยนั่นเองจ้า แต่ถ้าอดใจไม่ไหวจริง ๆ อยากกินทั้งชิ้น แนะนำว่าให้นับเป็น 1 มื้ออาหารไปเลยนะคะ เพราะถ้ากินเค้กด้วย กินข้าวด้วยอาจจะทำให้ได้คาร์โบไฮเดรตเยอะเกินไป รู้แบบนี้แล้วก็ลองบาลานซ์กันดูน้า ♥


วิธีลดน้ำตาล ที่ 4 ซื้อขนาดหรือปริมาณที่เล็กลง

รูปภาพ:https://i0.wp.com/www.justputzing.com/wp-content/uploads/2014/03/DSC_0354-3.jpg?w=600&ssl=1

ข้อที่ 4 เกินครึ่งทางมาแล้วจ้า ข้อนี้ก็คือให้สั่งในขนาดที่เล็กลงค่ะ เช่น ปกติกินชาไทยแก้วใหญ่ ก็ให้ลดเหลือแค่แก้วปกติหรือแก้วเล็กก็พอส่วนขนมถ้าปกติกินชิ้นใหญ่ก็ให้ลดเหลือชิ้นเล็ก ๆ แทนเช่น คุกกี้ก็จะมีทั้งแบบชิ้นใหญ่และชิ้นเล็ก ถ้าไม่อยากกินเยอะก็ให้กินชิ้นเล็ก ๆ ให้หายอยากแทน แบบนี้ก็ได้เหมือนกันค่ะ ที่แนะนำให้ทำแบบนี้เพราะว่าสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลและปริมาณอื่น ๆ แบบคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันลงได้อีกด้วย ก็คือลด 1 ได้ถึง 2 และ 3 อะไรแบบนั้นเลยนะคะ คุ้มสุด ๆ


ติดหวาน แก้ยังไง วิธีที่ 5 ทานผลไม้แทนขนมหวาน

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/328607878/original.jpg?t=1554061995

ข้อที่ 5ให้ทานผลไม้แทนการกินขนมหวาน... ฟังดูเหมือนจะชิล ๆ แต่ไม่ชิลนะจ๊ะ เพราะจริง ๆ ผลไม้หลาย ๆ ชนิดก็มีน้ำตาลเยอะเหมือนกัน เช่น ขนุน ทุเรียน มะม่วงสุก ลำไย เงาะ ฯลฯ ดังนั้นเนี่ยเราจะต้องเลี่ยงผลไม้พวกนี้ด้วย ไม่ใช่ว่ากินได้ทุกชนิดน้า และถ้าจะให้แนะนำก็ขอแนะนำเป็นฝรั่ง ส้ม กีวี่ เสาวรส แอปเปิล ลูกแพร อะโวคาโด ลูกพลัม ฯลฯอะไรพวกนี้แทนจะดีกว่าเพราะมีปริมาณน้ำตาลที่น้อยแล้วก็ไม่มีไขมันสูงด้วย นอกจากการกินผลไม้จะช่วยลดหวานให้เราได้แล้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นแถมยังได้วิตามิน + แร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงสุขภาพด้วยนะคะ :-D


วิธีลดหวานแบบไม่ทรมาน ที่ 6 ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/328607878/original.jpg?t=1554061995

หลายคนพอเหนื่อยหน่อยหรือร้อนหน่อยก็จะซื้อแต่น้ำหวานมากินซะละ แบบนี้ก็คงไม่ได้ลดปริมาณน้ำตาลกันพอดี งั้นเราขอเสนอวิธีที่ 6 อย่างการดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นเลยจ้า ดื่มให้มากขึ้นไม่ได้หมายความว่าต้องดื่มเป็นลิตร ๆ หรือเป็นขวดใหญ่อะไรแบบนั้นนะคะ แต่ให้จิบเรื่อย ๆ แทน หิวน้ำหรือปากแห้งก็จิบสัก 1 ครั้งพอเราจิบบ่อย ๆ จะทำให้เราไม่ค่อยหิวแล้วก็จะทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกอยากกินพวกของหวานหรือน้ำหวานด้วย แต่ก็อย่าดื่มหรือจิบเยอะไปนะคะเพราะน้ำเปล่าถ้าดื่มมากไปก็อันตรายต่อร่างกายเหมือนกัน ( ซึ่งจะต้องดื่มเกิน 3 ลิตรถึงจะอันตรายนะจ๊ะ )


วิธีลดอาการติดหวานที่ 7 ออกกำลังกายบ้าง

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/328607878/original.jpg?t=1554061995

ข้อสุดท้ายแล้วจ้า อย่าเพิ่งงงนะคะว่าการออกกำลังกายเกี่ยวอะไรกับการลดหวาน คือการออกกำลังกายเนี่ยนอกจากจะทำให้สุขภาพเราแข็งแรงมากขึ้น ได้ขับเหงื่อ ได้ลดไขมันต่าง ๆ ลงไปแล้วยังช่วยให้อารมณ์ของเราดีขึ้นด้วยนะคะ ใครเครียด ๆ เนี่ยยิ่งควรออกกำลังเลยล่ะ และเมื่อเราออกกำลังวันละนิดก็จะทำให้ความเครียดมีน้อยลง ความอยากของหวานและน้ำตาลมันก็จะลดลงไปด้วยนั่นเองรู้แบบนี้แล้วก็หมั่นออกกำลังกายกันนะคะ วันละ 5 - 10 นาทีก่อนก็ได้ แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น 15 ไปจนถึงประมาณ 30 นาทีต่อวันจะดีมาก ๆ เลยละค่ะ!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยกับ 7วิธีลดหวานไม่หักดิบที่เราแนะนำไป ใครยังไม่เคยลองอยากให้ลองดูนะคะเพราะมันช่วยได้จริง ๆ แล้วไม่เป็นการฝืนใจจนเกินไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นวิธีการลดหวานและปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันลงได้แบบประนีประนอมที่สุดแล้วนะคะ รู้แบบนี้แล้วก็อยากให้ทุกคนทำน้า เราเองก็จะทำด้วยเหมือนกัน สู้ไปด้วยกันค่ะ!เพื่องานผิวที่ดีขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยถ้าใครกลัวเหงา ๆ ทำคนเดียวก็ชวนคนรอบตัวแบบคุณพ่อ คุณแม่ พี่ น้อง เพื่อนหรือแฟนมาทำด้วยกันก็ได้นะคะ จะได้มีคนคอยห้ามกันบ้างเผื่อจะเผลอใจกินหวาน เอาล่ะ! งั้นเราต้องลาทุกคนไปก่อนนะค้า ไว้กลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้าค่า บ๊ายบาย ♥


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ