เจอกันทุกเดือนเลยนะ ! ข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์ " ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ ?
อาการปวดท้องเมนส์ที่ต้องเป็นทุกเดือน บางอาจจะกำลังสงสัย ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ? ลองตามไปดูข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์ " ในบทความนี้กันเลย
เผยแพร่: 4 มี.ค. 2566 16:00 น.
Views: 1,864
รหัสบทความ: 93847
โอ้ยย เจอกันทุกเดือนเลยนะ!!
สำหรับคนที่มีประจำเดือนก็คงจะพอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เจอกันทุกเดือนคืออะไร แน่นอนว่าต้องเป็น
น้องเมนส์ที่รัก ที่มักจะมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดนิด ๆ ให้ไม่สบายตัวส่วนตัวเราก็อยากรู้เหมือนกัน ทำไม๊ทำไมถึงต้องปวดมันทุกเดือ
น บทความนี้เราเลยตามไปเก็บข้อมูล
ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาการปวดท้องเมนส์มากฝากเพื่อน ๆ กันด้วย
ถ้าปวดท้องแป๊บ ๆ แล้วหายคงไม่เป็นไร
แต่ถ้าเกิดใครปวดมาก ๆ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอาจจะต้องตามเช็กอาการ และปรึกษาคุณหมอดูอีกที
แต่ก่อนอื่นเราตามไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการปวดท้องเมนส์กันก่อนดีกว่า จะได้ดูแลรักษาตัวเองได้ถูกจุด
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์" ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ
✹✹✹✹✹✹✹✹✹
➤ สาเหตุอาการปวดประจำเดือน
ในช่วงที่เมนส์มาบางครั้งมักจะมากั
บอาการปวดท้องแบบหน่วง ๆ หรือปวดเกร็ง บางคนเป็นไม่มาก ส่วนบางคนเป็นหนักและมีอาการอื่น ๆ อย่างปวดหลัง ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออก ท้องเสีย หรือท้องอืดร่วมด้วย
อาการปวดประจำเดือนเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยังไง? มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย
น้องเมนส์คือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมากลายเป็นประจำเดือน อาการปวดท้องเมนส์เกิดขึ้นจากตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ในช่วงที่เป็นเมนส์สารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน อย่าง
" โพรสตาแกลนดิน " ( Prostaglandin ) จะก่อตัวขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูก และเจ้าสารตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็ง บางครั้งอาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสียไปด้วย
และความรุนแรงของอาการปวดท้องเมนส์ จะขึ้นอยู่กับว่าร่างกายหลั่งสารตัวนี้มากน้อยขนาดไหนนั่นเอง
➤ ประเภทของอาการปวดประจำเดือน
ในทางการแพทย์
แบ่งอาการปวดประจำเดือนเป็น 2 ประเภท
คือปวดประจำเดือนประเภทปฐมภูมิ ( Primary Dysmenorrhea ) ที่พบบ่อย และอาการปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ ( Secondary Dysmenorrhea )
➀ อาการปวดประจำเดือนประเภทปฐมภูมิ
( Primary Dysmenorrhea ) เป็นอาการปวดท้องเมนส์ที่พบบ่อย มีสาเหตุมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกผลิตสารโพรสตาแกลนมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบีบรดและหดตัวอย่างแรง
➁ อาการปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ
( Secondary Dysmenorrhea ) อาการปวดท้องเทนส์ประเภทนี้จะ
มีสาเหตุมาจากภาวะความผิดปกติของมดลูกและอวัยวะสืบพันธุ์อื่น ๆ
สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุอย่างเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุมดลูกเจริญภายในกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกมดลูก ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ภาวะมดลูกตีบ
แล้วอาการปวดท้องเมนส์แบบไหน ควรไปหาหมอ?
ทำความเข้าใจอาการปวดท้องเมนส์มาแล้ว เราพอรู้มาแล้วว่าสาเหตุของอาการปวดท้องเมนส์เกิดจากอะไร และเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เป็นมีประจำเดือน
แต่ถ้าเกิดมีอาการปวดมากเกินจนรบกวนชีวิตประจำวัน หรือมีอาการเหล่านี้ ควรไปหาหมอเพื่อตรวจเช็กสุขภาพอีกทีนะคะ
อาการปวดท้องเมนส์ที่ควรไปหาหมอ
✹
เมื่อทานยาแล้วแต่ยังไม่หายปวด
✹
เมื่อมีอาการปวดท้องเมสน์มากขึ้นทุก ๆ เดือน
✹
เมื่อมีอายุมากกว่า 25 ปี มีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก
✹
เมื่อปวดประจำเดือนพร้อมกับมีไข้สูง อาเจียน เป็นลม
✹
เมื่อมีอาการท้องเสียท้องร่วงอย่างรุนแรง
✹
เมื่อเลือดประจำเดือนไหลออกมามากกว่าปกติ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง
✹
เมื่อรู้สึกปวดท้องน้อย ถึงแม้จะไม่มีประจำเดือนมา
✹
เมื่อมีอาการตกขาวมีกลิ่น มีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด
✹
เมื่อเลือดประจำเดือนมีสีแปลกไปจากปกติ
➤ ปวดประจำเดือนเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง?
สำหรับอาการปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ หรือปวดท้องเมนส์หนักมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อ
าการปวดประจำเดือนหนัก ๆ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคเหล่าเหล่านี้
อย่างเช่น
✹
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
( Endometriosis ) ภาวะที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นหรือบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ภายในโพรงมดลูก
✹
เนื้องอกมดลูก โดยเฉพาะเนื้องอกมดลูกชนิดใต้เยื่อบุโพรงมดลูก
( Submucous myoma ) เนื้องอกชนิดไม่ร้ายและพบได้บ่อย จะทำให้มดลูกบีบตัวมากขึ้น เพื่อขจัดสิ่งที่ขัดขวางการหดรัดตัวภายในโพรงมดลูก
✹
การมีพังผืดในช่องท้อง
พังผืดที่อาจจะเกิดจากผลของการผ่าตัดคลอด หรือการผ่าตัดเข้าช่องท้องมาก่อน หรือมีการอักเสบในอุ้งเชิงกรานและช่องท้อง ก่อให้เกิดพังผืดที่มีการดึงรั้งมดลูก
✹
ปากมดลูกตีบ
( Cervical stenosis ) ทำให้เลือดประจำเดือนไหลออกจากโพรงมดลูกไม่สะดวก จนทำให้ปวดท้องเมนส์มากขึ้นได้
✹
ความผิดปกติของโครงสร้างทางกายภาพในอวัยวะสืบพันธุ์
( Obstructive malformation of the genital tract ) จากโครงสร้างที่ผิดปกติอาจจะทำให้ประจำเดือนไหลออกมาไม่ได้ ทำให้ปวดประจำเดือนมากขึ้น
➤ วิธีบรรเทาและป้องกันอาการปวดประจำเดือน
สำหรับอาการปวดท้องเมนส์แบบปกติทั่วไป
เราสามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องเพิ่งการกินยาด้วยนะ
ถ้าเกิดเพื่อน ๆ มีอาการปวดท้อง ปวดตัวในช่วงเป็นเมนส์ ลองบรรเทาด้วยวิธีเหล่านี้ดูค่ะ
✹
ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบท้องน้อยและช่วงหลัง ค
วามอุ่นของกระเป๋าน้ำร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงมีการผ่อนคลาย ลองนำกระเป๋าน้ำร้อนมาประคบครั้งละประมาณ 3 - 5 นาที จนกว่าอาการปวดท้องจะดีขึ้น วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ลดอาการปวดได้พอ ๆ กับการกินยาเลย
✹
นวดบริเวณท้องน้อย
วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายลง ลองนวดวนเป็นวงกลม บริเวณท้องน้อยเบา ๆ จะช่วยคลายอาการตีงของกล้ามเนื้อลงไปได้ค่ะ
✹
ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อลดอาการปวด
เราสามารถออกกำลังกายแบบไม่หักโหม ในช่วงที่เป็นเมนส์ได้ด้วยเหมือนกัน อย่างการเดินเร็ว เล่นโยคะในท่าง่าย ๆ การออกกำลังกายเหล่านี้จะช่วยกล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นลดอาการปวดเกร็งไปได้
✹
ทานอาหารที่มีประโยชน์ คุณสมบัติช่วยลดอาการปวดเกร็
ง การเลือกทานอาหารก็มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ได้ด้วยเหมือนกัน ลองเลือกทานอาหารที่มีแมกนีเซียม อย่าง ผักโขม ตำลึง กล้วย เพราะแมกนีเซียมมีส่วนช่วยลดอาการปวดเกร็งในช่องท้อง
หรือจะจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่างน้ำผึ้งผสมมะนาวหรือน้ำขิง ก็ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกาย บรรเทาอาการปวดไปได้ด้วยเหมือนกัน ส่วนอาหารที่ควรเลี่ยงในช่วงมีประจำเดือน คืออาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสเค็มหรือหวานจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน ก็ควรเลี่ยงด้วยค่ะ
✹✹✹✹✹✹✹✹✹
ทำความรู้จักกับอาการปวดท้องเมนส์ สิ่งที่ชาวเรามนุษย์เมนส์ต้องได้เจอกันเป็นปกติ
แต่อาจจะไม่ปกติถ้าเกิดมีอาการปวดท้องเมนส์หนักมาก
ประจำเดือนมามากกว่าปกติ อย่านิ่งนอนใจลองเข้าไปพบแพทย์ปรึกษาขอคำแนะนำจากคุณหมอกันดูนะคะ
จะได้รักษาและดูแลตัวเองได้อย่างทันท่วงที ส่วนวันนี้ขอตัวไปก่อนแล้ว แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า บ๊ายบายค่ะ